นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปิดทริปการเดินสายในภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา โดยได้เดินทางไปพบปะประชาชนในพื้นที่ต่างๆ พร้อมศึกษาแนวทางการพัฒนานโยบายทั้งทางด้านการกระจายอำนาจ การศึกษา การขนส่งสาธารณะ และการจัดการขยะ ก่อนเดินทางมาพบปะกับสมาชิกในกิจกรรมมีตติ้งที่สนามฟุตซอล สีมาอารีน่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา ท่ามกลางการต้อนรับจากสมาชิกที่มารอพบปะฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น
นายธนาธร กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ตนได้ไปดูระบบการจัดการศึกษาที่โรงเรียนเทศบาล 4 ว่าการจัดการศึกษาในโรงเรียนภายใต้สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดการบริหารแตกต่างจากโรงเรียนภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการอย่างไร จากนั้น ได้ไปดูโรงงานประกอบรถเมล์ ซึ่งกำลังพัฒนารถเมล์ไฟฟ้าอยู่ ตนสนใจเรื่องนี้ เพราะอยากศึกษาว่า ประเทศไทยจะสามารถผลิตรถเมล์เป็นของตนเอง ป้อนระบบขนส่งสาธารณะให้เข้าถึงทุกชุมชนทั่วประเทศได้หรือไม่ จากนั้น ได้ไปดูโรงงานจัดการขยะ ซึ่งรองรับขยะในทั้ง 4 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา พบว่ายังคงมีอุปสรรคในการจัดการขยะมากมาย เป็นปัญหาร่วมกันในระดับทั่วประเทศ ตนก็ต้องการมาศึกษาว่าจะสามารถวิจัยและพัฒนาสร้างเทคโนโลยีในการจัดการปัญหาขยะในประเทศไทยได้อย่างไรบ้าง
นายธนาธรกล่าวต่อว่า แม้ตนจะไม่ได้เข้าไปในสภา แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้มาหาพี่น้องประชาชนมาศึกษาประเด็นต่างๆ เพื่อนำเอาไปทำเป็นนโยบายหรือส่งเรื่องต่อให้เพื่อนเราในสภานำไปอภิปรายแก้ไขปัญหา ถ้าตนได้เข้าสภา วันนี้ก็คงจะยุ่งอยู่กับการประชุม ไม่ได้มาเจอกับพี่น้องทุกคนอย่างนี้ จากวันนี้เป็นต้นไป การทำงานพรรคอนาคตใหม่จะเดินไปใน 3 ขาด้วยกัน
1. คืองานในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ของเราจะทำงานให้หนักขึ้นในการนำเอาปัญหาของพี่น้องประชาชนไปสะท้อนในสภา และผลักดันการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายในด้านต่างๆ
2. คือการสร้างความเข้มแข็งให้พรรคในอนาคต พรรคอนาคตใหม่ต้องการการขยายฐานสมาชิกออกไปให้กว้างขวางขึ้น อยากเชิญชวนทุกคนที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกมาช่วยกัน สองร้อยบาทจ้างธนาธรไปพูดปัญหาของประเทศ จ้าง อ.ปิยบุตร แสงกนกกุลไปแก้รัฐธรรมนูญไม่แพง และถ้าใครมีกำลังทรัพย์มากกว่าท่านอื่นๆ ก็อยากชวนให้สมัครสมาชิกตลอดชีพ เพื่อให้เราขับเคลื่อนสร้างพรรคที่เข้มแข็งต่อไปได้ ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ต้อวทำให้ที่มาของรายได้มาจากฐานที่กว้างที่สุด และงานด้านนี้ก็เพื่อการขยายแนวคิดและอุดมการณ์ของพรรคให้ออกไปอย่างกว้างขวางมากที่สุด
3. คือ การเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น ยอมรับว่าในขณะนี้พรรคอนาคตใหม่ยังไม่มีศักยภาพมากพอที่จะส่งลงในทุกระดับ จึงจะเน้นไปที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดบางแห่งก่อน ตอนนี้เรากำลังเปิดรับสมัครทีมผู้สนใจลงสมัคร อบจ.ในนามพรรค และอยากให้ทุกท่านที่สนใจร่วมกันฟอร์มทีมขึ้นมา คิดนโยบายที่อยากจะพัฒนาจังหวัดของตนเองออกมา เราต้องแข่งขันที่นโยบาย ไม่ใช่การแข่งขันที่นามสกุลหรือเส้นสายอิทธิพล สิ่งที่เราต่องการคือเขย่าการเมืองท้องถิ่น ให้ทุกคนต้องลงสนามด้วยนโยบาย ไม่ว่าเราจะแพ้หรือชนะในจังหวัดที่เราส่งลง ก็ไม่สำคัญเท่ากับการทำให้ทุกคนต้องลงมาแข่งขันกันด้วยนโยบาย เพราะสุดท้ายผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็คือประชาชน ทั้งนี้ ตนไม่สัญญาว่าจะส่งลงที่โคราชด้วยหรือไม่ แต่หากวันหนึ่งต้องมีการส่งลงจริงๆ ก็อยากจะขอเชิญชวนชาวโคราชทุกคนมาร่วมกันเป็นพลังในการสร้างทีมของเรา
นายธนาธร กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่เราจะทำอีกประการหนึ่ง และต้องการพลังของทุกคนในสังคมมาร่วมกันผลักดัน คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่จะเริ่มคิกออฟแคมเปญในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ อยากชวนให้ทุกคนช่วยกันพูดคุยโน้มน้าวคนรอบข้าง ให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญนี้มีปัญหาอย่างไร รณรงค์ร่วมกันไปกับพรรคอนาคตใหม่ รัฐธรรมนูญฉบับนี้อาจจะแก้ไขยาก ต้องมีเสียง ส.ว.ถึง 1 ใน 3 แล้วยังต้องฝ่าด่านศาลรัฐธรรมนูญอีก แต่ถ้าทุกคนมาร่วมกันในการผลักดันไปพร้อมกันทั้งสังคม เราเชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะสามารถเกิดขึ้นได้ ขอให้เรามาร่วมกันผลักดันการเปลี่ยนแปลงอย่างสันติไปด้วยกัน การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญอย่างสันติเราเคยทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่งในกระแสธงเขียวรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ทุกคนในสังคมออกมาร่วมรณรงค์ไปพร้อมๆกัน เชื่อว่าเราจะทำมันได้อีกครั้งหนึ่งจากเสร็จภาระกิจที่จังหวัดนครราชสีมา
นายธนาธร จึงรุ่งเรืิองกิจ จะเดินทางต่อมายังที่ประชุมชั่วคราว สำนักงานใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะเพื่อเกาะติดการแถลงนโยบายของรัฐบาลในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร