กองทัพอิสราเอลได้ระดมกำลังเพิ่มหลายร้อยนาย เข้าควบคุมการชุมนุมของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา พร้อมใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยางและกระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บ 31 คน ในจำนวนนี้ถูกยิงด้วยกระสุนจริง 11 คน และบาดเจ็บจากกระสุนยาง 20 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน

นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังเปิดเผยว่า เครื่องบินรบและรถถังของอิสราเอลได้เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส 2 จุดในฉนวนกาซา หลังจากเมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม) มีจรวด 3 ลูกถูกยิงจากฉนวนกาซามายังอิสราเอล โดยมี 1 ลูกที่ตกในเขตเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล ส่วนอีก 2 ลูกพลาดเป้า อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมากองกำลังอัล-ทาวีด ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา ที่ไม่ขึ้นตรงต่อกลุ่มฮามาสได้ออกมาประกาศว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยิงจรวดโจมตีอิสราเอล

ด้านกลุ่มติดอาวุธฮามาสประกาศให้วันนี้ (8 ธันวาคม) เป็น 'วันแห่งความเดือดดาล' พร้อมเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ละทิ้งแนวทางสร้างสันติภาพและลุกฮือขึ้นต่อต้านอิสราเอล

ขณะที่เมื่อวานนี้ นายมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีของปาเลสไตน์ได้เดินทางเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่มีสายสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาของชาวมุสลิมในนครเยรูซาเลม โดยแม้ว่าจอร์แดนจะเป็น 1 ในชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ แต่ภายหลังจากที่นายทรัมป์ประกาศรับรองนครเยรูซาเลม ทางจอร์แดนได้ระบุว่า การประกาศของสหรัฐฯ ไม่มีผลทางกฎหมาย

ภาพ: AP