ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาเรียกร้องชาวปาเลสไตน์และพันธมิตรรวมตัวครั้งใหญ่เพื่อต่อสู้การยึดครอง หรือ 'อินติฟาดะ' หลังจากสหรัฐฯ รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลโดยไม่ฟังเสียงชาวปาเลสไตน์ ส่วนอียูเตรียมกดดันให้สหรัฐฯ รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงปาเลสไตน์ด้วย

เว็บไซต์เยรูซาเลมโพสต์ สื่อของอิสราเอล รายงานว่า อิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มติดอาวุธฮามาส แกนนำการปกครองในดินแดนปาเลสไตน์ฝั่งฉนวนกาซา ซึ่งได้รับเลือกให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประกาศว่าฮามาสจะละทิ้งกระบวนการเจรจาสันติภาพ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ พี่น้องชาวมุสลิม และผู้สนับสนุนอิสรภาพปาเลสไตน์ทั่วโลก จงรวมตัวกันลุกขึ้นต่อสู้การยึดครองของลัทธิไซออนนิสต์ ซึ่งหมายถึงฝ่ายอิสราเอล ในวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม โดยจะถือว่าเป็นวันแห่งความเดือดดาล (Day of rage) ครั้งใหม่  

ขณะที่นัสเซอร์ อัล-กิตวาห์ ผู้ช่วยประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำรัฐบาลปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ เรียกร้องให้ประชาชนรวมตัวประท้วงการตัดสินใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่กองทัพอิสราเอลระดมกำลังทหารและเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงตรึงกำลังบริเวณรอยต่ออิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทำให้เกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย และมีการยิงกระสุนยางเข้าใส่ผู้ประท้วง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย

ด้านชายคนหนึ่งซึ่งข่าวไม่ระบุชื่อ โพกหน้าด้วยธงปาเลสไตน์ ขับรถยนต์พุ่งชนร้านอาหารยิวในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์วันนี้ (7 ธันวาคม) ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงพยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่าผู้ก่อเหตุตะโกนสรรเสริญพระเจ้าก่อนจะลงมือด้วย แต่ตำรวจจับกุมชายคนดังกล่าวไว้ได้ และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ


Tunisia Trump Jerusal_Rata.jpg

อย่างไรก็ตาม สมาคมชาวยิวแห่งเนเธอร์แลนด์ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุ โดยระบุว่าการล้างแค้นรัฐบาลอิสราเอลและสหรัฐฯ ไม่เกี่ยวอะไรกับผู้มีเชื้อสายยิวในเนเธอร์แลนด์

นอกจากนี้ เฟเดริกา โมเกรินี ประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรป (EU) แถลงว่าจะหารือร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอียู จอร์แดน รัสเซีย รวมถึงนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ภายในวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม เพื่อผลักดันให้สหรัฐฯ รับรองเยรูซาเลมในฐานะเมืองหลวงของปาเลสไตน์ด้วย ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางยังดำเนินต่อไปได้ 

โมเกรินีย้ำด้วยว่า อียูมีพันธกิจในการไกล่เกลี่ยผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เนื่องจากอียูเป็นผู้สนับสนุนเงินบริจาครายใหญ่สุดของปาไลสเตน์ และเป็นคู่ค้าที่สำคัญของอิสราเอล จึงคาดหวังว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือในการเจรจาหาทางออกจากความขัดแย้งร่วมกัน แต่ขณะเดียวกันอียูก็ออกแถลงการณ์ตำหนินายทรัมป์ที่ตัดสินใจดำเนินการในประเด็นที่เป็นเรื่องอ่อนไหวโดยไม่สนใจคำแนะนำจากประชาคมโลก 

เรียบเรียงโดย ตติกานต์ เดชชพงศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

นานาชาติประท้วงแรง ต้านทรัมป์รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล

"รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลแล้ว ต้องรับรองให้ปาเลสไตน์ด้วย"