ไม่พบผลการค้นหา
ศูนย์ที่นี่มีงานทำของกระทรวงแรงงาน เปิดใช้บริการ 3 เดือน ช่วยให้บัณฑิตปริญญาตรีที่จบใหม่ราว 25,000 คนมีงานทำ

พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีภารกิจในการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำทั่วหน้า ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 แต่ในช่วงเวลาจบปีการศึกษาแต่ละครั้งจะมีบัณฑิตว่างงานเป็นจำนวนมาก

โดยในช่วงเดือน พ.ค. 2561 พบว่า ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีว่างงานถึง 170,900 คน แม้ว่าจำนวนผู้ว่างงานโดยรวมของประเทศล่าสุดจะมีเพียง 380,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1 และเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานน้อยที่สุดอันดับ 4 ของโลกก็ตาม ดังนั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงานจึงมอบหมายให้ เร่งแก้ไขปัญหาบัณฑิตว่างงาน กระทรวงแรงงานจึงได้มีนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจัดตั้ง 'ศูนย์ที่นี่มีงานทำ' หรือ 'Job Ready Center' ภายใต้แนวคิด “ประชารัฐร่วมใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ” มีเป้าหมายสำคัญคือ กลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่ยังว่างงาน

'ศูนย์ที่นี่มีงานทำ' เปิดให้บริการพร้อมกัน 11 แห่งทั่วประเทศ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ที่ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ณ กระทรวงแรงงาน ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นครราชสีมาและขอนแก่น ภาคกลาง ที่พระนครศรีอยุธยาและปราจีนบุรี ภาคตะวันออก ที่ชลบุรีและระยอง ภาคใต้ ที่สุราษฎร์ธานีและสงขลา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา

จนถึงปัจจุบัน "ศูนย์ที่นี่มีงานทำ" มีผู้จบปริญญาตรี สมัครงาน ณ “ศูนย์ที่นี่มีงานทำ” จำนวน 23,798 คน ได้รับการบรรจุงาน จำนวน 17,364 คน คิดเป็นร้อยละ 72.96 ของผู้สมัครงาน ขณะที่มีผู้ติดตาม Line Jobs จำนวน 5,820,471 คน และมีผู้เข้าใช้ระบบจำนวน 699,208 คน เป็นผู้จบปริญญาตรี จำนวน 393,320 คน ผู้สมัครงาน จำนวน 36,429 คน ได้รับการบรรจุงาน จำนวน 7,558 คน คิดเป็นร้อยละ 20.75 ของผู้สมัครงาน รวมผู้สมัครงานจำนวนทั้งสิ้น 60,227 คน ได้งานทำ 24,922 คน คิดเป็นร้อยละ 41.38 ของผู้สมัครงาน โดยอาชีพ 5 อันดับแรกที่ได้งานทำคือ นักการตลาด เจ้าหน้าที่การตลาด เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขาย เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหาร ผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการขาย โปรแกรมเมอร์ ขณะเดียวกันมีผู้มาพัฒนาทักษะฝีมือ จำนวน 2,064 คน และได้รับคำแนะนำสิทธิประโยชน์ จำนวน 8,441 คน

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการบริหารจัดการและให้บริการในรูปแบบใหม่ เพียงระยะเวลา 3 เดือนเศษ ทำให้ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีงานทำ สามารถสร้างรายได้มากถึง 373,800,000 บาท และพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวพ้นกับดักความยากจน นำพาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป