นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงอุบัติเหตุรถตู้พุ่งชนต้นไม้เกิดไฟลุกท่วมจังหวัดกำแพงเพชร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บ 6 ราย เบื้องต้นจากการสอบสวนและให้ข้อมูลของขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร ระบุว่าขณะเกิดเหตุมีฝนตกทำให้ถนนลื่นจนเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบผู้โดยสาร 15 ราย ถือว่าบรรทุกเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 14 ราย
ดังนั้น จึงผิดกฎหมายชัดเจน กรมการขนส่งทางบกจึงลงโทษผู้ประกอบการและผู้ขับรถ เบื้องต้นคนขับรถจะปรับ 5,000 บาท พักใบอนุญาต 180 วัน ส่วนผู้ประกอบการปรับ 50,000 บาท พักใบอนุญาต 6 เดือน ซึ่งเป็นข้อหากระทำผิดบรรทุกผู้โดยสารเกิน
นอกจากนี้ ยังพบกระทำผิดเรื่องปล่อยเครื่องกวนสัญญาณ ทำให้จีพีเอสขาดเป็นช่วง ๆ ถือเป็นการกระทำผิดที่ละเมิดมาตรการความปลอดภัย ผู้ขับรถจะมีโทษ 5,000 บาท และผู้ประกอบการปรับ 50,000 บาท จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้ขับรถเป็นทั้งคนขับและเจ้าของรถจะถูกดำเนินคดีทุกฐานความผิด
ส่วนประเด็นปัญหาที่เกิดกับรถตู้รายดังกล่าวเป็นรถตู้ไม่ประจำทางหรือรถ 30 แต่การบรรทุกผู้โดยสารปัจจุบันพบว่าการกระทำผิดบรรทุกผู้โดยสารเกิน หรือปล่อยให้ยืนมาจากการกำหนดโทษเบาไปหรือไม่ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกยืนยันว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งบังคับใช้กฎหมายและหากตรวจพบฝ่าฝืนจะดำเนินคดีขั้นสูงสุดทุกราย สำหรับการดูแลผู้บาดเจ็บนั้น ได้กำชับให้ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชรดูแล เนื่องจากตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวทำประกันภัยถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้ชดเชยให้แก่ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตตามกฎหมายกำหนดด้วย
นายพีระพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ พร้อมสนับสนุนการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกใช้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะรับส่งผู้โดยสารที่ถูกกฎหมาย โดยผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกรถจักรยานยนต์สาธารณะรับส่งผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการเป็นรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ป้ายเหลือง) ต้องมีที่ตั้งวินตามที่ได้รับอนุญาตและต้องให้บริการรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ปัจจุบันมีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับอนุญาต 5,638 วิน ผู้ขับรถ 98,826 คน และอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายตามที่กรมการขนส่งทางบกร่วมกับ ทหาร ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร จัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้วยการเปิดรับลงทะเบียนการขอจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะครั้งที่ 3 โดยดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. ถึง 31 ส.ค. 2561 ซึ่งขอตั้งวินใหม่อีก 97 วิน 923 ราย และเพิ่มผู้ขับขี่วินเดิมอีก 10,897 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการรายงานตัวและพิจารณาอนุมัติ โดยกำหนดให้ต้องจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะเรียบร้อยภายในวันที่ 28 ก.พ. 2562 หากพบการฝ่าฝืนนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการจะมีความผิดฐานนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาใช้รับ-ส่งผู้โดยสาร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท กรณีแต่งกายไม่ถูกต้องตามประกาศกรมการขนส่งทางบก ปรับไม่เกิน 1,000 บาท การไม่แสดงใบอนุญาตขับรถสาธารณะปรับไม่เกิน 1,000 บาท และหากนำรถจักรยานยนต์สาธารณะของตนไปรับจ้างในสถานที่ตั้งวินอื่นจะถูกพิจารณาถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อในสถานที่ตั้งวินที่ผู้นั้นขับรถอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง