ไม่พบผลการค้นหา
ขนมหม้อแกงเนื้อเนียนหวานหอมอร่อยใครจะคิดว่า จะใช้วิธีอบแบบโบราณภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีเตาอบราคาแพง ใช้แบบที่หาได้ตามบ้าน แต่รสชาติความอร่อยต้องยกนิ้วให้

ยายบุญมา อู่รอด อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่7 ต.ดงคู่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ยังยึดกรรมวิธีการทำขนมหม้อแกงแบบโบราณ โดยใช้การปิ้งหรืออบด้วยถ่านและกาบมะพร้าวบนตระแกรงเหล็กแบบโบราณ ซึ่งปัจจุบันน่าจะเหลือที่นี้เพียงแห่งเดียวแล้ว 

ยายบุญมา ต้นตำหรับขนมห้อมแกงปิ้งแบบโบราณเล่าให้ฟังว่า ขนมหม้อแกงที่แกทำนั้นยังคงวิธีแบบโบราณโดยการปิ้งบนตระแกรงเหล็ก ใช้ถ่านและกาบมะพร้าวเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะได้ทั้งรสชาติและความหอม ของควันมะพร้าว สำหรับขั้นตอนการทำขนมนั้น ยายบุญมา  จะขูดมะพร้าวด้วยกระต่ายขูมมะพร้าว และคั้นกะทิด้วยมือ กรองกากมะพร้าวด้วยผ้าขาวบางจากนั้นจะนำน้ำกะทิมาผสมกับแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ ไข่ไก่ที่ตีแล้ว ให้เป็นเนื้อเดียวกันพักไว้  นำหอมซอยลงเจียวให้หอมกรอบ พักไว้ จากนั้นน้ำตาลทรายผสมลงไปในแป้งที่ผสมไว้แล้ว และนำขึ้นตั้งเตาไฟ ที่ใช้เตาถ่านซึ่งจะได้ความร้อนที่คงที่ จากนั้นจะกวนแป้งขนมให้พอสุขเมื่อได้แป้งขนมสุขแล้วจะนำไปใส่ถาดที่เตรียมไว้ เพื่อนำไปปิ้งบนตระแกรงเหล็กแบบโบราณโดยจะใส่ถ่านวางด้านล้างตระแกรง จากนั้นจะนำถาดขนมมาวางบนตะแกรงและนำแผ่นสังกระสีมาวางปิดด้านบนเหนือถาดขนมอีกชั้น และจำนำถ่าน กาบมะพร้าวและไม้เชื้อไฟมาวางด้านบนและจุดไฟเพื่อปิ้งขนมหม้อแกง โดยจะต้องคอยเขี่ยไฟด้านบนและด้านล้างให้ร้อนสม่ำเสมอกัน ซึ่งถือว่าเป็นเคล็ดลับความของขนมหม้อแกงยายบุญมา  โดยจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็พร้อมนำออกมาขายแล้ว

ขนมหม้อแกง


สำหรับวิธีการทำขนมหม้อแกงนั้นยายบุญมา เล่าว่าสมัยที่ตนเป็นสาวๆได้ดูเพื่อนบ้านทำขนมหม้อแกงและใช้วิธีครูพักลักจำ นำมาลองหัดทำขนมหม้อแกง จนกระทั่งแต่งงานมาอยู่กับสามีได้มาลองหัดทำขนมหม้อแกงขาย โดยตนจะเป็นคนทำและสามีจะเป็นนำไปขายซึ่งสมัยก่อนขายเพียงชิ้นละหนึ่งสลึง จนขนมหม้อแกงเป็นที่รู้จักของทั้งหมู่บ้าน แต่มาระยะหลังได้หยุดทำขนมหม้อแกงเนื่องจากต้องทำนา จนกระทั่งเมื่อต้นปี2560 ที่ผ่านมาลูกสาวตนได้มาชวนให้ทำขนมเพื่อที่จะเอาไปขายตามตลาดนัดตน เห็นว่าอยู่ว่างๆจึงได้ทำขนมหม้อแกงไปขายกับลุกสาว แต่วิธีการทำขนมก็ยังคงเป็นแบบโบราณที่เคยทำมาซึ่งปัจจุบันตนขายชิ้นละ10 บาทและถาดเล็ดถาดละ 30 บาท 

 

ขนมหม้อแกง


ลูกค้าที่มาซื้อขนมหม้อแกงส่วนใหญ่เป็นขาประจำในหมู่บ้าน และมักจะก็ติดใจในรสชาติความอร่อยของขนมหม้อแกง และยิ่งรู้กรรมวิธีการทำแบบโบราณยิ่งทำให้ลูกค้าแวะเวียนมาซื้อขนมหม้อแกงของยายบุญมา มากขึ้นแต่ยายบุญมาก็ทำได้ในปริมาณที่จำกัด