ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ยันต่อผู้นำญี่ปุ่นก่อนร่วมถกผู้นำความร่วมมือลุ่มน้ำโขง - ญี่ปุ่น ย้ำไทยเดินหน้าสู่ประชาธิไตย ในปี 62 ไทยมีเลือกตั้งแน่ พร้อมฉลอง 130 ปีสัมพันธ์สองชาติ ยินดีนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นเบอร์หนึ่งเข้ามาลงทุนในอีอีซี

เวลา 17.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ (H.E. Mr. Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ ทำเนียบรัฐบาลญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และหลังการหารือ 

โดยนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีความยินดีที่ในช่วงที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ไทย และญี่ปุ่นมีพัฒนาการหลายด้านและมีความแน่นแฟ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับพระราชวงศ์ การเมือง เศรษฐกิจ และการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนและความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น โดยเมื่อปีที่แล้วทั้งสองฝ่ายยังได้เฉลิมฉลองการครบรอบ 130 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - ญี่ปุ่น และทั้งสองฝ่ายจะสานต่อความร่วมมือต่อไปในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือภายใต้ความตกลงการค้าเสรี และพิจารณาเปิดตลาดสินค้าเกษตรของไทยมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีขอบคุณญี่ปุ่นที่ให้ความร่วมมือในการยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ตามนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 โดยนำแนวคิด Connected Industries ของญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของ SMEs และ Start-ups ของทั้งสองประเทศ รวมทั้งให้ความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยในหลากหลายโครงการ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถผลิตแรงงานด้านเทคนิคที่มีมาตรฐานสูง และรองรับการลงทุนของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมเป้าหมายในไทยได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลักดันการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นในอีอีซีซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจไทยและเชื่อมโยงสู่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในระยะต่อไป โดยเฉพาะการผลักดันให้เอกชนญี่ปุ่นถึงกว่า 600 คนมาเยือนไทยเมื่อปีที่แล้ว เป็นการตอกย้ำว่าญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งในไทยและในอีอีซี ได้เป็นอย่างดี และไทยยินดีที่เอกชนญี่ปุ่นสนใจที่จะเข้าร่วมในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในอีอีซี

ประยุทธ์ อาเบะ ญี่ปุ่น 81008044452.jpg

นอกจากนี้ ในการประชุมลุ่มน้ำโขง – ญี่ปุ่น ครั้งนี้จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ยุทธศาสตร์โตเกียว ค.ศ.2018 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอนุภูมิภาคผ่านการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในด้านต่าง ๆ การพัฒนาคน และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อมโยงกับแผนแม่บท ACMECS ที่ไทยเป็นผู้ริเริ่มหลัก และญี่ปุ่นนับเป็นประเทศแรกที่ให้ความสนใจที่จะเข้าเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECS โดยไทยพร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นเพื่อพัฒนากลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืนและมีนวัตกรรมอย่างแข็งขัน และจะนำไปสู่การพัฒนาอนุภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียนโดยรวม โดยเฉพาะในปีหน้าที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพอาเซียน ก็ต้องขอรับความร่วมมือจากญี่ปุ่นในการทำให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต

นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลไทยได้เดินหน้าปฏิรูปประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง จะมีการเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ.ปี 2562 และขอขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่เข้าใจและสนับสนุนไทยมาตลอด และยินดีที่เอกชนญี่ปุ่นมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง