ไม่พบผลการค้นหา
ครม.มีมติเห็นชอบงบกลาง 5,186.13 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ด้านกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพเปิดแคมเปญบน change.org เสนอนโยบาย "คนไทยทุกคนใช้ บัตรรักษาพยาบาลเดียวกัน" ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้ระบบสุขภาพ

พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,186.13 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 รายการ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายบริการสำหรับผู้ป่วยในภายใต้กองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จำนวน 4,186.13 ล้านบาท และค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข 1,000 ล้านบาทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของบุคลากร และช่วยเหลือหน่วยงานบริการที่ประสบปัญหาทางการเงิน

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนง สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน ให้ตระหนักถึงหน้าที่ที่จะร่วมกันรับผิดชอบและแบ่งเบาภาระจากการใช้จ่ายงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวอย่างไร เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่การจัดเก็บรายได้จากภาษีของรัฐไม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอนาคตจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการดูแลด้วยเช่นกัน จึงขอให้ประชาชนทุกคนได้ตระหนักถึงหน้าที่ของตนเองในการร่วมกันรับผิดชอบ และแบ่งเบาภาระของชาติโดยการเสียภาษีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อนำเงินที่ได้มาสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวและพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดที่จะขึ้นภาษีแต่ละประเภทแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสุภัทรา นาคะผิว ตัวแทนจากกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้เปิดแคมเปญ บน change.org เสนอนโยบายให้คนไทยทุกคนใช้ บัตรรักษาพยาบาลเดียวกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมให้ระบบสุขภาพ มีมาตรฐานเดียว กองทุนเดียว โดยมีหลักคิดที่สำคัญว่า สิทธิเรื่องสุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนโดยที่จะต้องไม่ถูกเลือกปฏิบัติ และ ได้รับบริการที่มีคุณภาพ และ มาตรฐานเดียวกันทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องลงทุน ไม่ใช่เรื่องภาระ เป็นการลงทุนของรัฐในเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 1,300 คน

ด้าน สมบัติ บุญงามอนงค์ ได้เฟซบุ๊กไลฟ์พูดคุยกับ นิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และตัวแทนกลุ่มเครือข่ายคนรักประกันสุขภาพ โดยเสนอให้รวมสิทธิการรักษาพยาบาลรวมเป็นสิทธิ์เดียวกัน เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ