ไม่พบผลการค้นหา
โนเกียหนุนเทคโนโลยี 5จี ส่งผลให้หุ้นขึ้น พร้อมประกาศว่าจะทำให้ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีไร้สาย

หุ้นของโนเกีย บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติฟินแลนด์ เติบโตสูงขึ้นกว่าร้อยละ 30 ในปี 2561 โดยปัจจัยหลักมาจากความสนใจของบริษัทในการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย 5จี อย่างไรก็ตาม หุ้นของโนเกียยังมีการซื้อขายต่ำกว่าจุดสูงสุดในช่วงภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ 'ดอตคอม' ระหว่างปี พ.ศ. 2540 ถึงปี พ.ศ. 2543 ซึ่งเป็นเวลาที่โนเกียยังครองตลาดโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก

แม้จะสูญเสียการเป็นเจ้าแห่งตลาดไปกว่าทศวรรษ แต่แรงขับเคลื่อนของโนเกียกำลังกลับมา ในฐานะผู้เล่นคนสำคัญในการสร้างซอฟต์แวร์และอุปกรณ์รองรับ 5จี ในตลาดระบบการสื่อสารเคลื่อนที่ และความพยายามของโนเกียทำให้ประเทศฟินแลนด์มีชื่ออยู่บนแผนที่โลกด้านการแข่งขันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย 5จี

"พวกเขา (โนเกีย) พยายามที่จะเรียกคืนการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีด้วย 5จี หลังจากที่สูญเสียตำแหน่งผู้นำไปในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาในยุคโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน" ทิม แฮต หัวหน้าทีมวิจัยของ จีเอสเอ็มเอ อินเทลลิเจนท์ (GSMA Intelligence) กล่าว

สรรพสิ่งเชื่อมโยงกัน

เทคโนโลยีไร้สาย 5จี จะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วขึ้นและระยะเวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง หรือ latency ที่ลดลง ช่วยลดความล่าช้าระหว่างอุปกรณ์ในการสื่อสารกัน และยังเพิ่มความรวดเร็วในการดาวน์โหลดต่างๆ

โนเกียกล่าวว่า ศักยภาพของ 5จี มีมากกว่าการดาวน์โหลดได้ไวขึ้น ภายในสำนักงานใหญ่ของโนเกียที่เมืองเอสโป ประเทศฟินแลนด์ มีการจัดโชว์ศักยภาพของแอปพลิเคชัน 5จี ในหลายแวงวงอุตสาหกรรม จากสายการผลิตขั้นสูงไปจนถึงสาธารณสุข

ระยะเวลาในการส่งข้อมูลที่ลดลงนั้น ส่งผลให้ความสามารถในการส่งข้อมูลของยานพาหนะไร้คนขับ (autonomous vehicles) สามารถทำได้แทบจะในทันทีเมื่ออยู่บนท้องถนน หรื การเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน

"ฉันคิดว่า 5จี จะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า" ลอร์ลี โอค์ซาเนน รองประธานฝ่ายวิจัยและเทคโนโลยีของโนเกีย กล่าว

การทดสอบประสิทธิภาพ 5จี 

ในเดือนมกราคมที่จะถึง ฟินแลนด์จะกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำที่มีการเริ่มใช้สัญญาณ 5จี ในเชิงพาณิชย์ เตเลีย บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติสวีเดน เป็นหนึ่งในสามผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลคลื่นความถี่จากรัฐบาลฟินแลนด์ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และได้รับใบอนุญาตในการให้บริการสัญญาณ 5จี ในเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว 

แจน คอยสติเนน ผู้อำนวยการโครงการ 5จี ของเตเลีย กล่าวว่า 5จี เป็นช่องทางสมบูรณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับสิ่งที่บริษัทเคยทำในอดีต

บริษัทเตเลียเพิ่งสร้างศูนย์ข้อมูลแบบเปิดที่ใหญ่ที่สุดที่กรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์ เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จะไหลเข้ามาเมื่อมีการให้บริการ 5จี

บริษัทเตเลียและโนเกียได้ร่วมมือกันดำเนินการทดสอบสัญญาณ 5 จี ในพื้นที่จำกัดต่างๆ ทั่วฟินแลนด์ ซึ่งคอยสติเนน กล่าวว่า มรดกทางเทคโนโลยีไร้สาย ประกอบกับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลฟินแลนด์จะทำให้ประเทศสามารถสู้กับเหล่าผู้ริเริ่ม 5จี ของโลกได้

"ในด้านความว่องไว ความรวดเร็ว และความคิดสร้างสรรค์ในการนำมันไปใช้ประโยชน์ เราสู้ (จีน และ สหรัฐฯ) ได้อยู่แล้ว" คอยสติเนน กล่าว

คำถามด้านความปลอดภัย

ความตื่นเต้นและคาดหวังที่มีต่อสัญญาณ 5จี มาพร้อมกับคำถามด้านความปลอดภัยที่มีสูงไม่แพ้กัน ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สั่งห้ามหัวเว่ย บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน สร้างโครงข่าย 5จี ด้วยความกังวลความเสี่ยงในการสอดแนมของจีน ด้านสหรัฐฯ มีการห้ามการขายอุปกรณ์ของหัวเว่ยในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2545 จากความกังวลด้าานความปลอดภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ว่าหัวเว่ยจะออกมาปฏิเสธข้อครหาหลายต่อหลายครั้ง

นักวิเคราะห์หลายคนออกมาบอกว่า ภาพลักษณ์ด้านลบของจีนนั้น จะเป็นตัวส่งเสริมการเติบโตสำหรับบริษัทโทรคมนาคมสัญชาติฟินแลนด์อย่าง โนเกีย

"เนื่องจากหัวเว่ยถูกแบนในหลายตลาด เรามองว่าโนเกียจะเป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายระดับโลกเพียงบริษัทเดียวที่มีระบบ กระบวนการลอจิสติกส์ครบวงจร เห็นได้จากการที่บริษัทขนส่งระดับโลกเลือกที่จะโนเกียเป็นหุ้นส่วนสำหรับการพัฒนา 5จี" นักวิเคราะห์จาก คาแนคคอร์ด เจนิวตี้ (Canaccord Genuity ) กล่าว

ด้านโนเกียออกมาย้ำว่า บริษัทรับทราบความกังวลของทั้งรัฐบาลและประชาชนที่มีต่อเทคโนโลยี 5จี โดยย้ำว่าโนเกียจำทำทุกอย่างเพื่อรักษาระดับความปลอดภัย ตั้งแต่สัญญาณวิทยุไปจนถึงเราต์เตอร์และซอฟต์แวร์

อ้างอิง; CNBC