จากสถานการณ์ไฟป่าบนเทือกเขาบรรทัดที่ จ.ตราด พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังวิกฤติ หลายพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟกระจายไปทั่ว จนทำให้ประชาชน มีอาการแสบจมูก หายใจไม่ค่อยสะดวก และต้องใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง

ล่าสุดวันนี้ (25 ก.พ.2563) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเหตุไฟไหม้ที่จังหวัดตราดว่า ตนได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยแจ้งไปยังอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ช่วยพิจารณาสถานการณ์ ซึ่งหากจะมีการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดจะต้องขอเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงที่ประจำการอยู่ส่วนกลางมาแก้ไข หรือจะพิจารณาให้เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงอีกตัวที่กำลังปฏิบัติการที่จังหวัดนครนายกถอนไปที่จังหวัดตราดเนื่องจากภารกิจใกล้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนเรื่อง การแจกหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่เกิดจากเหตุไฟไหม้นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า การดูแลประชาชน น่าจะเป็นเรื่องไวรัส COVID 19 ซึ่งขณะนี้ได้ให้ความรู้ประชาชนทั่วประเทศ สอนใช้หน้ากากที่ทำเองซึ่งมาตรฐานก็เป็นไปตามมาตรฐานที่สามารถป้องกันได้ ซึ่งเราเน้นเรื่องนั้นเป็นหลัก ส่วนหน้ากากที่จะใช้ดูแลปัญหาฝุ่นละอองPM 2.5 เกินค่ามาตรฐานนั้นละเอียดอ่อนกว่า ได้เน้นไปที่ ให้ความรู้กับประชาชนในการทำหน้ากากอนามัยใช้เองและนำมาซักกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งหน้ากากที่จำหน่ายอยู่ตอนนี้จะแพงหรือจะถูกส่วนตัวไม่ทราบแต่ต้องเปลี่ยนทุกวัน จึงเน้นเรื่อง COVID 19 มากกว่า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำ เรื่องการจัดการมลภาวะทางอากาศที่จังหวัดตราดตอนนี้จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ระบุว่าในทางกฎหมายถ้าเป็นผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ มีนโยบายท้องถิ่นที่จะดำเนินการอยู่แล้วโดยจะมีขั้นตอนหากเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เร่งด่วน มีผลกระทบกับประชาชนรัฐจะซื้อหน้ากากให้ แต่หากเป็นในลักษณะที่รอได้ขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อน เพราะรัฐจะดูแลได้ก็ต่อเมื่อมีประชาชนมาร้องขอ โดยเมื่อได้ชื่อประชาชนที่ร้องขอมาแล้วรัฐจะดำเนินการนำไปจัดซื้อตามที่ร้องขอ เป็นไปตามเทศบัญญัติขอซื้อ เพราะไม่ได้เอาเงินมาตั้งรอแจก อย่างนั้นไม่ได้

ทั้งนี้ ในขณะนี้สถานการณ์ฉุกเฉินแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการจัดซื้อหน้ากากให้ประชาชนแล้วหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมสภาในทันที

ผู้ว่าฯตราด​ ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว

นายพสวัตน์ โชติวัตพงษ์ชัย​ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว​ เปิดเผยว่า​ ตามที่มีการลงข่าวและภาพไฟไหม้ในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่าพบไฟไหม้ตราดอย่างหนัก​จากการตรวจสอบแล้วพบว่า​ ภาพไฟใหม้ดังกล่าวเกิดนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งอยู่ฝั่งอำเภอเมืองจังหวัดตราด​ เป็นพื้นที่รอยต่อเขตกับประเทศเพื่อนบ้านบริเวณเขาบรรทัด และเกิดกลุ่มควันเป็นบริเวณกว้าง ในท้องที่จังหวัดตราด ซึ่งทางจังหวัดตราดได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาขั้นต้นไปแล้ว

สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้วได้เกิดไฟไหม้ขึ้น เป็นหย่อมๆหลายจุด และเป็นพื้นที่ที่ติดกับชายแดนประเทศกัมพูชาในบางจุด เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมกับสถานีควบคุมไฟป่าน้ำตกคลองแก้ว ทหาร​ และอบต.นนทรีย์​ เพื่อร่วมกันดำเนินการดับไฟป่า แต่ในบางจุดไม่สามารถดำเนินการดับไฟป่าได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย​ มีการพบระเบิดในพื้นที่​ ซึ่งขณะที่เกิดไฟไหม้ป่า​ จะมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ​ เจ้าหน้าที่ได้ติดตาม และเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟไหม้ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด​ ได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่อำเภอเมืองตราด​ และดำเนินการขอรับการสนับสนุนอากาศยานบรรทุกน้ำเพื่อดับไฟ จาก ปภ และ กปช.จต. ประสานขอหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง​และขอรับการสนับสนุนรถยนต์พร้อมอุปกรณ์พ่นละอองน้ำเพื่อแก้ปัญหาหมอกควัน​ รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งจัดทำ/ตัดเย็บหน้ากากอนามัย เพื่อแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่​ พร้อมทั้งจัดระบบเฝ้าระวังและระงับเหตุกรณีที่ไฟอาจลุกลามเข้ามาใกล้พื้นที่ชุมชน

โซเชียลผุด #หยุดไฟตราด ขอความช่วยเหลือ

จากวิกฤตดังกล่าว จึงเกิดแฮชแท็ก #หยุดไฟตราด โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากได้ทวีตข้อความแสดงความคิดเห็น พร้อมขอความช่วยเหลือให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดับไฟ หลังได้รับผลกระทบมาเป็นเวลา 5 วันแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถดับไฟได้บางจุด ทำให้เกิดหมอกควันกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

นายกฯ สั่งสนับสนุนเครื่องบินบรรทุกน้ำดับไฟป่า จ.ตราด อย่างเร่งด่วน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่ จ.ตราด อย่างใกล้ชิดแม้จะอยู่ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนเครื่องบินบรรทุกน้ำเข้าไปช่วยดับไฟป่าอย่างเร่งด่วนตามที่ทาง จ.ตราดร้องขอ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าได้เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีวัตถุระเบิดถูกฝังยังไม่ได้เก็บกู้จำนวนมาก ส่วนพื้นที่รอบนอกขอให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการทุกหน่วยสกัดกั้นไม่ให้ไฟลุกลามเข้าพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ทางจังหวัด โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุขออกให้คำแนะนำและช่วยเหลือด้านสุขภาพแก่ประชาชน เพราะหลายพื้นที่มีควันไฟปกคลุมทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และขอให้ทุกคนดูแลตนเองในเบื้องต้น เช่น สวมหน้ากากอนามัย ด้วย

นายกรัฐมนตรีห่วงใยปัญหาไฟไหม้ป่าและถือเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้ทุกคนร่วมดูแล ระมัดระวังไม่จุดไฟเผาป่าหรือวัชพืช ที่จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สำหรับไฟป่าบนเทือกเขาบรรทัดนี้มักเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้ค่อนข้างรุนแรงและขยายวงกว้าง ส่งผลให้สภาพอากาศในหลายพื้นที่ของอำเภอเมืองตราดเริ่มได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามนับแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าควบคุมสถานการณ์การลุกลามอย่างต่อเนื่อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองทัพ โดยนำรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำตามจุดต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ รวมถึงการทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกไหม้ต่อไปยังพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน