บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย จัดกิจกรรมเปิดโลกห้องปฏิบัติการกับเซ็นทรัลแล็บไทย ครั้งที่ 3 /2566 ภายใต้หัวข้อ “ยกเครื่องโรงแรมไทย สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย” ณ โรงแรมอมารี พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อยกระดับโรงแรมไทย สู่มาตรฐานอย่างมืออาชีพ ภายในงานได้รับเกียรติจากวิยากรที่เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ประกอบด้วย สุชาติ สุขเจริญ รักษาการนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ กรมอนามัย, คงพันธ์ จิรวงศาโจรน์ ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานและวิชาการ เซ็นทรัลแล็บไทย, รัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้แทนการตลาดสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคตะวันออก, ดร.พัทธนันท์ ดันไทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทดันไทร คอนซันติงค์ แอนด์ซัพพลาย จำกัด, ณัฐพลกรณ์ รัชธนาพนธิ์ ผู้เชี่ยวชาญการสอบเทียบเครื่องมือ เซ็นทรัลแล็บไทย และ กิตติ แซซี่ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการโรงแรมอมารี โอโซ พัทยา ซึ่งภายในงานมีผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัททัวร์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
กิตติ พรศิวะกิจ ประธาน Smart Tourism สภาอุตสาหกรรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานในพิธีร่วมกล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ การขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานสู่การเป็น Hub Wellness Hotel ว่าวันนี้ (23 พ.ค.) เป็นวันที่เราต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้าน และปี 2566 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 30 ล้านคน แต่ความคาดหวังของนักท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม Clean & Safety ความสะอาดและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญมากที่สุด
ดังนั้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะต้องยกระดับมาตรฐาน และสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเห็นทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งในยุคนี้การรีวิวจากนักท่องเที่ยวหรือ Influencer นั้นไม่พอ การได้รับตรามาตรฐานต่างๆ กลายเป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวกำลังมองหาข่าวดีของนักท่องเที่ยว
"วันนี้กรมอนามัย เซ็นทรัลแล็บไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันขับเคลื่อนทั้งด้านการให้ความรู้ ให้ทุนและให้เครื่องมือ เพื่อยกระดับมาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการไปด้วยกัน โดยเมืองพัทยานั้นมีศักยภาพสูงที่จะเป็น Health & Wellness และ Gastronomy Tourism Hub โรงแรม ร้านอาหารและสถานบันเทิง สามารถเริ่มได้ง่ายๆจากการขอมาตรฐาน Green food, Good Taste + ซึ่งการได้รับมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยนั้น เป็นเรื่องที่คุ้มค่าในการลงทุนมาก เพราะมาตรฐานที่สูงขึ้น ทำให้รายได้และผลกำไรของผู้ประกอบการสูงขึ้นเช่นกัน" กิตติ พรศิวะกิจ ประธาน Smart Tourism สภาอุตสาหกรรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าว
สำหรับประเด็นสำคัญ ภายใต้หัวข้อเสวนา "ยกเครื่องโรงแรมไทย สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย” แบ่งออกเป็น 2 เรื่องหลักคือ 1. การยกระดับสุขอนามัยในพื้นที่ส่วนต่างๆของโรงแรม เช่น สถานที่ประกอบอาหาร, ห้องครัว, ห้องน้ำ, รวมไปถึงพนักงานที่ให้บริการ โดยกรมอนามัย และ เซ็นทรัลแล็บไทยเน้นย้ำเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นข้อบ่งชี้ได้ชัดว่าการรักษาความสะอาดในส่วนต่างๆ จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคอื่นๆด้วย อีกทั้งผู้บริโภคในปัจจุบันมักจะเลือกใช้บริการโรงแรมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ หากผู้ประกอบโรงแรมใดสามารถจัดทำมาตรฐานได้ตามที่กฎหมายบังคับก็จะเป็นส่วนสำคัญในการเลือกใช้บริการของนักท่องเที่ยว
"ในส่วนของพนักงานโรงแรมที่สัมผัสอาหาร จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรสุขภิบาลอาหาร ของกรมอนามัย ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้รู้และเข้าใจการรักษาความสะอาดในทุกๆด้าน ซึ่งเซ็นทรัลแล็บไทย คือหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ฝึกอบรมหลัดสูตรดังกล่าว โดยปัจจุบันมีทั้งรูปแบบอบรมออนไลน์ และ ออฟไลน์" คงพันธ์ จิรวงศาโจรน์ ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานและวิชาการ เซ็นทรัลแล็บไทย กล่าว
ส่วนมาตรฐานที่สำคัญในการยกระดับโรงแรมให้เป็นมืออาชีพ คือการจัดทำระบบ ISO ต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยพื้นฐานของการจัดทำระบบที่สำคัญ คือ มาตรฐานอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ภายในโรงแรม ที่จำเป็นจะต้องผ่านการสอบเทียบความแม่ยำ เช่น ตู้แช่เย็น, เครื่องวัดอุณหภูมิ, เครื่องวัดแอลกอฮอล์, เครื่องชั่ง เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเซ็นทรัลแล็บไทย สามารถให้บริการสอบเทียบเครื่องมือเหล่านี้ได้ตามมาตรฐานสากล ISO/IEC17025 ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจ ในการทำระบบของโรงแรมนั้นๆ อีกทั้งการยกระดับด้วยการจัดทำระบบ จะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการโรงแรมของนักท่องเที่ยวทุกคน