ผู้ถูกประหาร 2 รายล่าสุด คือ โมฮัมหมัด มาห์ดี คารามี และ ซาเยด โมฮัมหมัด ฮอสเซนี ทั้งนี้ ชายทั้งสองเคยยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินเมื่อเดือน ธ.ค.ปีก่อน โดยพวกเขากล่าวว่าตัวเองถูกซ้อมทรมานให้สารภาพเท็จ โดยในปัจจุบันนี้ มีผู้ชุมนุมอิหร่านถูกประหารชีวิตไปแล้ว 4 ราย หลังจากการประท้วงต่อต้านคณะนักการศาสนาผู้ปกครองอิหร่าน ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศเมื่อเดือน ก.ย.ของปีที่ผ่านมา
ไมซาน สำนักข่าวของตุลาการอิหร่านระบุว่า ชายทั้งสองเป็น “ผู้กระทำความผิดหลัก” ในการสังหาร รูฮอลเลาะห์ อาจาเมียน เจ้าหน้าที่ทหารอาสา โดยอัยการอิหร่านกล่าวว่า อาจาเมียนถูกเปลือยกายและสังหารโดยกลุ่มผู้ร่วมไว้อาลัย ที่รวมตัวกันเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ประท้วงที่เพิ่งเสียชีวิต อย่างไรก็ดี ศาลฏีกาอิหร่านยืนคำพิพากษาประหารชีวิตทั้งสองเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มสิทธิมนุษยชน ออกประณามการพิจารณาคดีที่ “เสแสร้ง” และกล่าวว่า ทางการอิหร่านกำลังหาทางลงโทษประหารชีวิต ต่อผู้ประท้วงรายอื่นๆ อีกอย่างน้อย 26 คน
ทั้งนี้ ครอบครัวของคารามี ซึ่งมีวัยเพียงแค่ 22 ปีกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พบคารามีก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตลงในวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.) โดยก่อนหน้านี้ ครอบครัวของคารามีร้องขอต่อศาลให้ไว้ชีวิตลูกชายของพวกเขา “ผมขอร้องล่ะ ผมขอให้คุณ… ยกเลิกโทษประหารจากคดีของลูกชายผม” พ่อของคารามีกล่าว
สำนักข่าว Human Rights Activists รายงานว่าจนถึงขณะนี้ มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 516 ราย รวมถึงเด็ก 70 รายเสียชีวิตลงจากเหตุการณ์ความไม่สงบ และมีผู้ประท้วงอีก 19,262 รายถูกจับกุมตัว นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอิหร่านรวม 68 นาย
ยังมีรายงานอีกว่าผู้ที่ถูกควบคุมตัวจำนวนมากหลังจากการประท้วงถูกบังคับให้สูญหาย ถูกควบคุมตัวโดยไม่ได้รับการติดต่อสื่อสาร ถูกทรมานร่างกาย และถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายในด้านอื่นๆ โดยเจ้าหน้าที่ทางการอิหร่านเรียกการประท้วงว่าเป็น “การจลาจล” และกล่าวหาว่ามหาอำนาจต่างชาติเป็นชนวน ที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีชายอีก 3 ราย ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีเดียวกันนี้ ในขณะที่อีก 11 รายถูกตัดสินโทษจำคุก ทั้งนี้ การแขวนคอครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นหลังการประหารชีวิตชายอีก 2 รายก่อนหน้า ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการโจมตีกองกำลังความมั่นคงอิหร่านเมื่อเดือนที่แล้ว
ที่มา: