ต่างประเทศ
‘เนทันยาฮู’ ฮึ่มค้านตั้งรัฐปาเลสไตน์ แม้สหรัฐฯ ชี้เป็นทางออกระยะยาวของปัญหา
เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) เนทันยาฮูให้คำมั่นผ่านการแถลงข่าวระดับชาติ ที่จะเดินหน้ารุกฉนวนกาซาจนกว่าอิสราเอลจะตระหนักได้ถึง “ชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือกลุ่มฮามาส” พร้อมกันนี้ เนทันยาฮูได้ระบุว่าเขาได้แสดงจุดยืนของตัวเอง ในการต่อต้านการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ให้ต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แล้ว
“ในการจัดการในอนาคต… อิสราเอลจำเป็นต้องมีการควบคุมความมั่นคงเหนือดินแดนทั้งหมดทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน” เนทันยาฮูกล่าว “สิ่งนี้ขัดกับแนวคิดเรื่องอธิปไตย คุณทำอะไรได้บ้าง… นายกรัฐมนตรีต้องสามารถกล่าวปฏิเสธเพื่อนของเขาได้” นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวเสริม
ในขณะที่สหรัฐฯ ออกเสียงยับยั้งมติขององค์การสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซา แต่สหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้อิสราเอลลดการใช้ความรุนแรงของสงครามในฉนวนกาซา และกล่าวว่าการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ควรเป็นส่วนหนึ่งของฉากทัศน์หลังสงครามจบลง
หลังจากที่เนทันยาฮูได้ออกมาแถลงแสดงจุดยืนของอิสราเอล จอห์น เคอร์บี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวว่า จะต้องไม่มีการยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้งหลังสงครามจบลง และเคอร์บีได้เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาแบบสองรัฐ
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกล่าวอีกว่า ในขณะนี้อิสราเอลมีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมกับแนวคิดเรื่องรัฐปาเลสไตน์ เนื่องจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคพร้อมที่จะให้หลักประกันด้านความปลอดภัยต่ออิสราเอล
“ไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาความท้าทายระยะยาว (ของอิสราเอล) เพื่อสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืน และไม่มีวิธีใดที่จะแก้ไขความท้าทายระยะสั้นในการสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ และสถาปนาการปกครองในฉนวนกาซา และจัดหาความมั่นคงให้กับฉนวนกาซาโดยปราศจากการสถาปนารัฐปาเลสไตน์” มิลเลอร์กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมระบุเสริมว่า แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอล แต่ “การสนับสนุนอิสราเอลของเรายังคงแข็งแกร่ง”
นอกจากนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าการเสนอเส้นทางสู่การตั้งรัฐปาเลสไตน์ อาจทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางมีเสถียรภาพ และช่วยโดดเดี่ยวอิหร่าน โดยบลิงเคนระบุว่า ภูมิภาคตะวันออกกลางต้องเผชิญกับสองเส้นทาง โดยเส้นทางแรกจะเป็นการที่ “อิสราเอลบูรณาการเข้ากับการรับรองและพันธสัญญาด้านความปลอดภัยจากประเทศในภูมิภาคและจากสหรัฐฯ และรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งอย่างน้อยก็มีเส้นทางสู่สถานะนั้น"
ในทางตรงกันข้าม บลิงเคนกล่าวอีกเส้นทางหนึ่งที่ภูมิภาคตะวันออกกลางจะได้ประสบ “ยังคงเห็นการก่อการร้าย ลัทธิทำลายล้าง การทำลายล้างโดยกลุ่มฮามาส โดยกลุ่มฮูตี โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน”
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขซาอุดีอาระเบีย กล่าวในการประชุม World Economic Forum ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าซาอุดีอาระเบียเชื่อว่า “สันติภาพในภูมิภาครวมถึงสันติภาพสำหรับอิสราเอลด้วย” ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย “แน่ใจ” ว่าจะยอมรับอิสราเอลว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการเมืองที่ใหญ่กว่า “แต่นั่นสามารถเกิดขึ้นได้ผ่านสันติภาพสำหรับชาวปาเลสไตน์ ผ่านรัฐปาเลสไตน์เท่านั้น”
หลังจากอิสราเอลทำสงครามกับฉนวนกาซาเป็นเวลานานกว่า 100 วัน การโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้ มีชาวปาเลสไตน์แล้วอย่างน้อย 24,620 คนถูกสังหาร ในขณะที่สัญญาณการสื่อสารได้ถูกตัดลงในฉนวนกาซาเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว พร้อมกันกับการจู่โจมที่ยังคงดำเนินต่อไปในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
สงครามอิสราเอล-กาซายังแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากเกิดการต่อสู้ของกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ซึ่งเสี่ยงต่อการที่จะปะทุขึ้นจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนยังคงมุ่งเป้าการโจมตีไปที่ระบบขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ ในขณะที่สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีกลุ่มฮูตีเป็นการตอบโต้
ที่มา:
