ไม่พบผลการค้นหา
'ชลน่าน' ประกาศลาออกหน้าพรรคเพื่อไทย ตามสัญญาที่ให้ไว้กับ ประชาชนหากจับมือพรรคลุง ด้าน กก.บห. พรรค มีมติให้ 'ชูศักดิ์' เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคแทน

วันที่ 30 ส.ค.66 เมื่อเวลา 16.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงลาออกจากตำแหน่ง โดยมี ภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รักษาเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้

ประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ (30 ส.ค.66) เวลา 14.00 น. พรรคเพื่อไทยมีการประชุมคณะกรรมบริหารพรรค ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ นพ.ชลน่าน อยากพูดเอง

โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่า ประเด็นสำคัญภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และตนเคยกราบเรียนไว้ว่า หากทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ในฐานะประธานกรรมการบริหารพรรค พิจารณารับผิดชอบการจัดตั้งรัฐบาลจองพรรคเพื่อไทยเสร็จเรียบร้อย ตนจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ในเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งภารกิจครั้งนี้สำเร็จเรียบร้อย กรรมการบริหารมีมติเห็นชอบตามที่มอบให้นายกฯเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีมนสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด 17 ตำแหน่ง บวกกับนายกฯ เป็น 18 ตำแหน่ง โดยภารกิจนี้สำเร็จแล้ว ตนจึงขออนุญาตนำเรียนกับพี่น้องสื่อมวลชนไปยังประชาชนว่า 

“ผม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขอทำตามที่เคยประกาศไว้เป็นสัจจะที่เคยลั่นวาจาไว้ว่า ถ้ามติกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ มีมติไปจับมือกับลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) ดีลกับลุงป้อม ผมในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อมจะออก และผมขอประกาศตรงนี้ว่า ผมขอลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตามที่เคยประกาศเอาไว้ ณ บัดนี้” 

ชลน่าน 744.jpegชลน่าน 743.jpegชลน่าน _1740.jpegชลน่าน _1734.jpegชลน่าน 728.jpeg

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เหตุผลความจำเป็นที่ต้องประกาศลาออกวันนี้ เป็นเหตุผลความจำเป็นของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ขอกราบเรียนด้วยความเคารพว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลในสถานการณ์พิเศษ ที่พรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่เห็นว่าต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งภารกิจแล้วเสร็จ เลือกนายกฯได้แล้ว อยู่ในขั้นตอนการนำรายชื่อเข้าสู่กระบวนการนำทูลเกล้าฯ จึงขอประกาศลาออกจากตำแหน่ง

เมื่อถามว่า หากมีการจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงไม่ได้กลับไปทำหน้าที่นั้นแล้ว เพราะตนเองก็มีหนาส่ที่ใหม่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่เชื่อว่า คณะกรรมการบริหารพรรคจะเลือกคนเข้ามารับตำแหน่งหน้าพรรคได้ดี

ส่วนความรู้สึกตอนนี้ นพ.ชลน่าน บอกว่า ตัวเองทำหน้าที่นี้ด้วยความภาคภูมิใจ และภารกิจที่ได้รับมอบหมายตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. 2564 ที่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ทำหน้าหน้าที่อย่างเต็มที่ให้สมกับความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน ยังได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่ตอบรับ และให้การสนับสนุน โดยเฉพาะช่วงวิกฤตในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเราทำงานกันอย่างหนักแม้เลือกตั้งออกมาจะไม่ได้เป็นไปตามคาดหมาย แต่สิ่งที่ได้รับคือบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ หลังเลือกตั้งยิ่งรู้สึกผูกพัน รักพรรคเพื่อไทยมากขึ้น และยังจะอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไปไม่ได้หายไปไหน 

ส่วนกระแสเรียกร้องว่าลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่เพียงพอ นพ.ชลน่าน ย้ำว่า คงจะไปทำตามใจใครไม่ได้ ซี่งตัวเองเคยบอกไว้ว่าจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเท่านั้น ตำแหน่งอื่นไม่เกี่ยว และยังคงเป็น ส.ส.และสมาชิกของพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม 

ภายหลังการแถลงเสร็จสิ้น ทั้ง 3 คนได้ลุกขึ้น ซึ่งภูมิธรรม และ ประเสริฐ ได้เข้าไปจับมือและโอบไหล่ นพ.ชลน่าน พร้อมทั้งจับมือให้กำลังใจกัน

ชลน่าน เพื่อไทย   ภูมิธรรม_1738.jpegชลน่าน ประเสริฐ ภูมิธรรม 737.jpegชลน่าน ประเสริฐ ภูมิธรรม IMG_1732.jpegชลน่าน ภูมิธรรม ประเสริฐ _1729.jpeg

ขณะที่ ประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามข้อบังคับหากหัวหน้าพรรคลาออก คณะกรรมการตัดสินพรรคที่เหลือทั้งหมด จะต้องหมดสภาพการเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ตำแหน่งอื่นในกรรมการบริการ ก็ยังคงรักษาการในตำแหน่งต่าง ๆ อยู่ตามข้อบังคับ แต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคไม่ได้นั่งรักษาการหัวหน้าพรรค ซึ่งวันนี้ (30 ส.ค.66) ได้มีมติเลือกรองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะรองหัวหน้าพรรคขึ้นมาเป็น รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องทำภายใน 60 วัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดวันในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค

ขณะที่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ตั้งแต่ร่วมคณะกรรมบริหารพรรคเพื่อไทยมา นพ.ชลน่านเป็นผู้เสียสละทำงานเป็นทีมกับพวกเรามาอย่างถึงที่สุดและความพยายามอยากเห็นพรรคเพื่อไทยได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ที่สุด โดยครั้งนี้ได้เห็นความรู้สึกของ นพ.ชลน่านที่เผชิญเป็นความทุกข์ยากและลำบากในการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งครั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ยากลำบากมาก ในส่วนที่ตนได้อยู่กับการเมืองมา 20-30 ปี ครั้งนี้ลำบากมากที่สุด เรารู้ว่าหลายเรื่องเป็นเรื่องที่อาจไม่สบายใจกับพี่น้องประชาชน แต่ผลเลือกตั้งออกมาแบบนี้ โดยกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามกฎกติกาที่มีปัญหาจากการรัฐประหาร และวันที่เราตัดสินใจมีสองปีก มีทางซ้ายทางขวา ถ้าเป็นรัฐบาลภาวะปกติสามารถจัดตั้งรัฐบาลมีรัฐบาลมีเสถียรภาพได้พอสมควร แต่มีเงื่อนไขรัฐสภา ที่มี สส.และสว.ซึ่งหลายส่วนมีความเห็นอิสระมีดุลพินิจ ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลครั้งแรก

ภูมิธรรม ระบุว่า แม้ไม่อาจไปได้ไกลกว่า 312 เสียง หรืออีกทางคือ 188 เสียง ซึ่งหากเป็นสภาวะรัฐบาลปกติก็คงทำได้อย่างมีเสถียรภาพ แต่พอมีเงื่อนไขก็ลำบาก แต่พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อนำสิ่งที่คิด ที่ฝัน มาตอบสนองให้ประชาชน

"เรารู้ว่าตลอด 9 ปีมีหลายอย่างการแก้ปัญหาไม่พึงพอใจพี่น้องประชาชน แต่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย มันมีเงื่อนไขและปัจจัย แต่ระยะเวลาจะเป็นเรื่องพิสูจน์ความฝันและความตั้งใจของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นสิ่งที่กรรมการบริหารพรรคและว่าที่รัฐมนตรีจะทำงานอย่างเต็มที่ ทำงานอย่างสุุดความสามารถเพื่อให้ปัญหาประชาชนได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ เสียดายท่านหัวหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ตำแหน่งก็ยังเป็นพี่น้องร่วมอุดมการณ์ทำงานและทำงานให้พี่น้องประชาชนต่อไป" นายภูมิธรรม กล่าว 

จากนั้น นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาโดนโจมตีอย่างหนักมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ว่าเรารับได้หรือไม่ ทั้งนี้ ฝากความหวังและอยากให้ประชาชน ภายใต้บริบทของการสื่อสาร อยากให้เสพข้อมูลหรือการคิดต่างๆต้องระมัดระวัง อะไรที่เป็นอันตรายต่อภาพรวม ต้องยับยั้งชั่งใจ ขณะเดียวกัน ยังไม่ได้ฝากอะไรให้กับหัวหน้าพรรคคนใหม่เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่อยากฝากให้รองหัวหน้าพรรค คือ ชูศักดิ์ ได้สานต่อ

นพ.ชลน่าน ฝากถึงคนที่หมดศรัทธาในต่อตัวเองว่า การศรัทธา ความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นเรื่องของเสรีภาพ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่เขาได้รับแต่หวังว่าคุณจะเข้าใจการตัดสินใจของตัวเองมากขึ้นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ต้องมาบอกว่าศรัทธาหรือไม่ศรัทธาแต่ต้องหันหน้าเข้าหากัน 

ส่วนที่โซเชียลมีเดียไม่พอใจการลาออกจากหัวหน้าพรรคไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงจะไปตอบสนองความพอใจของคนอื่นไม่ได้ ซึ่งมองเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ทำเพื่อประชาชนในฐานะที่เป็น ส.ส. 

ส่วนจะกลายเป็นพิธีกรรมที่พรรคอื่น เอาไปเลียนแบบ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้วไปรับอีกตำแหน่ง หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ให้ไปดูกระบวนการ ระหว่างพรรคที่เป็นองค์กรกับสถาบัน การแสดงความรับผิดชอบในฐานะบุคคล เป็นอย่างไร และตนเองไม่ได้เอาพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นความรับผิดชอบส่วนตัว ที่เคยบอกไว้ว่าจากมือกับผักจับมือกับ 2 ลุง จะขอลาออกจากหัวหน้าพรรค 

ชลน่าน  166292094263794326_n.jpg