ไม่พบผลการค้นหา
ผลประเมินแนวโน้มด้านการลงทุน 'เครื่องดื่มผสมกัญชา' ในสหรัฐฯ เชื่อว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น สตาร์บัคส์ จะเป็นเจ้าแรกที่เปิดตลาดด้านนี้ แต่ CEO เชนร้านกาแฟดังชี้ รัฐบาลยังไม่อนุมัติเครื่องดื่มประเภทนี้ง่ายๆ

Cowan บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เผยรายงานประเมินด้านการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและสารสกัดจากกัญชาแคนนาบิไดออล หรือ CBD หลังจากหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา รวมถึงหลายประเทศทั่วโลก เริ่มทยอยอนุมัติการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และสันทนาการได้

รายงานดังกล่าวมีความยาวกว่า 100 หน้า โดยเป็นการศึกษาแนวโน้มการลงทุน ทั้งการใช้พืชกัญชาโดยตรง และการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากสารสกัดแคนนาบิไดออล พบว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มว่าจะนำกัญชาและสารสกัดฯ ไปต่อยอดได้รวดเร็วที่สุด ได้แก่ ธุรกิจเครื่องดื่ม เนื่องจากที่ผ่านมา มีคาเฟ่รายย่อยในสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งได้นำเสนอเครื่องดื่มผสมกัญชาแบบหมักหรือแช่แก่ผู้ใช้บริการ แต่เมนูดังกล่าวถูกสั่งระงับโดยเจ้าหน้าที่อาหารและยาของสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่าจะต้องมีการตรวจสอบและอนุมัติอย่างเป็นทางการจากภาครัฐเสียก่อนจึงจะดำเนินการได้

วิเวียน เอเซอร์ นักวิจัยอาวุโสที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่ม ยาสูบ และกัญชา ระบุว่า สถิติการสืบค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์กัญชาใน 'กูเกิล' เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า หลังรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐฯ อนุญาตการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และสันทนาการ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทำจากกัญชงซึ่งจำหน่ายในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ 'แอมะซอน' ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าตลาดกัญชาและกัญชงในภูมิภาคอเมริกาเหนือจะยังเติบโตขึ้นได้อีก

รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่าสินค้าเกี่ยวกับกัญชาจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.28 แสนล้านบาท) ภายในปี 2025

ส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง 'สตาร์บัคส์' มีแนวโน้มจะเป็นผู้บุกเบิกหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมกัญชามากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ก็ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นธุรกิจการขนาดใหญ่ที่ขยายกิจการสาขาไปทั่วโลก ทำให้เกิดการผสมผสานวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นจากภูมิภาคต่างๆ ถือว่ามีแต้มต่อที่ดีกว่าธุรกิจร้านกาแฟแฟรนไชส์อื่นๆ ในสหรัฐฯ เช่น เครือดังกิน แม็คโดนัลด์ หรือเดอะฮอร์ตันส์

อย่างไรก็ตาม ผลสรุปของรายงานดังกล่าวระบุว่า สตาร์บัคส์อาจจะต้องลงทุนเพิ่มด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสารสกัดจากกัญชาให้รอบด้าน แต่ก่อนหน้านี้ในเดือน ม.ค. 2562 เควิน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของสตาร์บัคส์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเทศว่า เครื่องดื่มผสมกัญชายังไม่สามารถวางจำหน่ายในสหรัฐฯ หรือสาขาของสตาร์บัคส์ในประเทศต่างๆ ได้ในเวลาอันใกล้นี้ เพราะรัฐบาลต่างๆ ยังต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบและพิจารณาหาแนวทางกำกับดูแลผลิตภัณฑ์เหล่านี้อีกระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ ในกัญชามีสารกลุ่มแคนนาบินอยด์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ CBD (แคนนาบิไดออล) และ THC (เตตราไฮโดรแคนนาบินอล) ซึ่งสารประเภทหลังเป็นตัวที่ทำให้ผู้ใช้กัญชามีอาการมึนเมา หรือ get high แต่สาร CBD มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาการอักเสบของกล้ามเนื้อ ลมชัก และอาการทางจิตได้

ที่มา: Forbes/ Yahoo Finance

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: