ไม่พบผลการค้นหา
‘เรืองไกร’ ยื่นหนังสือถึง ‘สว.’ ตรวจสอบคุณสมบัติ ‘เศรษฐา’ เลี่ยงภาษีหรือไม่ ก่อนเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ รอบ 3 แนะ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สว. ขอเอกสาร-เชิญเจ้าหน้าที่กรมที่ดินให้ความเห็น ด้าน ‘ดิเรกฤกษ์’ สว. เผย โหวตนายกฯ ต้องคำนึงถึงจริยธรรม และความประพฤติดี

วันที่ 7 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวภายหลังการเข้ายื่นหนังสือต่อ ดิเรกฤกษ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา (สว.) ว่า เนื่องจากรัฐบาลใหม่ยังไม่มี เพราะต้องให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งคนแรกคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เกิดปัญหาไม่ได้รับเสียงมากเพียงพอ 

อีกทั้ง ที่ประชุมรัฐสภายังมีมติว่า เป็นญัตติเดิมที่ถูกตีตกหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ ม.151 ซึ่งหากเสนอชื่อครั้งต่อไปคงจะเป็น เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีของ พิธา ไว้ และยังไม่มีคำสั่งใดออกมา จนทำให้ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเลื่อนการประชุมรัฐสภาออกไป 

ดังนั้นเมื่อเห็นวาระการประชุมของ สว. ที่มีวาระเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ ม.272 จึงเห็นว่า เป็นโอกาสที่เหมาะจะนำข้อมูลกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ได้กล่าวอ้าง เศรษฐา ว่า อาจมีลักษณะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.160 (4) คือนายกฯ มีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ในกรณีการซื้อที่ดินแปลงหนึ่งตามที่ปรากฏตามข่าว 

ทั้งนี้เห็นว่าหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่โดยตรงคือ กมธ. แต่เนื่องจากในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ยังไม่มี จึงมายื่นต่อ กมธ. สว. ให้ทำหน้าที่แทน ซึ่งข้อเท็จจริงที่ต้องเสาะหาตามอำนาจของ กมธ. คือหากว่าที่นายกฯ มีข้อกล่าวอ้างเช่นนี้ ควรจะตรวจสอบ ดังนี้

1.ขอเอกสารจากชูวิทย์ 

2.ขอเอกสารจากบริษัทแสนสิริ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินแปลงนี้ทั้งหมด 

3.เชิญเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่รับจดนิติกรรม และเชิญเจ้ากรมสรรพากรมาให้ความเห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นการวางแผนภาษี หลบเลี่ยงภาษี หรือเป็นการหนีภาษีหรือไม่ 

ขณะเดียวกัน ต้องเชิญทางผู้ขายด้วย ต้องฟังความให้ครบหมด และได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน ในเวลาที่เหลืออีก 10 กว่าวัน

ด้าน ดิเรกฤกษ์ กล่าวว่า กรณีนี้จะนำไปเสนอต่อกมธ.พัฒนาการเมืองฯ และกมธ.คณะอื่นๆ ของสว. และที่ประชุมรัฐสภาต่อไป พร้อมย้ำว่า สว. มีหน้าที่โดยตรงที่จะใช้วิจารณญาณในการร่วมเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ม.272 ซึ่งในบรรทัดฐานของการทำหน้าที่คัดเลือกผู้นำองค์กรคนสำคัญ ทั้งศาล และองค์กรอิสระ รวมทั้งนายกฯ เราคำนึงถึงจริยธรรม ความประพฤติ ความซื่อสัตย์สุจริต ประกอบกับคุณสมบัติต่างๆ ที่ปรากฏไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย โดยจะรวบรวมข้อเท็จจริง และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป