ในพิธีปิดการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ และ ธนาคารโลก ที่เกาะบาหลี อินโดนีเซีย เหล่าผู้นำทางการเงินทั่วโลกต่างฝากข้อความสำคัญถึงความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังระอุอยู่ในตอนนี้ว่าขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและต้องได้รับการแก้ไข
นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ บีโอเจ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องการค้า
นายอีแลน โกลด์ฟาจน์ ประธานธนาคารกลางบราซิล ปักธงว่า ความตึงเครียดทางการค้าเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่
นายออกัสติน คาร์สเทนส์ ประธานธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ หรือ บีไอเอส ชี้ว่ามีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอยจากนโยบายเศรษฐกิจที่จำกัดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่มากขึ้น
ขณะที่ นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เรียกร้องให้หาทางออกที่เป็นรูปธรรมต่อข้อวิจารณ์ ทั้งยังบอกว่าจีนเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดเอาไว้แล้ว
"คุณจะเห็นว่าชาวจีนเตรียมพร้อมรับมือกับความตึงเครียดทางการค้าครั้งนี้ ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะยืดยาวออกไป เพราะความเสี่ยงด้านลบจากความตึงเครียดทางการค้าเป็นเรื่องสำคัญ" นายอี้ กัง กล่าว
ด้านนางคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ย้ำเป้าหมายหลักของไอเอ็มเอฟว่า ข้อความของเราชัดเจนมาก คือการลดระดับความตึงเครียด
(นางคริสตีน ลาการ์ด)
แต่ที่ร้อนแรงที่สุดเห็นจะเป็นความคิดเห็นจากนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่หยิบยกเอาวลีเด็ดจากซีรีส์ดังมหาศึกชิงบัลลังก์ Game of Thrones มาบรรยายเศรษฐกิจโลกว่า "หน้าหนาวกำลังมาเยือน" หากไม่มีความก้าวหน้าใดๆ
(โจโก วิโดโด)
ส่วนเออร์เนสโต้ เซดิลโล อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐเม็กซิโก ออกมาให้คำแนะนำแก่จีนว่า ให้เอาอย่างเม็กซิโกและแคนาดาในช่วงที่มีการต่อรองความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา กับสหรัฐฯ ซึ่งทั้งสองประเทศยืนยันอย่างเข้มแข็งว่าทั้งสองประเทศยอมที่จะไม่มีความตกลงนาฟตามากกว่าที่จะยอมทำสัญญาในแบบที่สหรัฐฯ ต้องการ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วทั้งเม็กซิโกและแคนาดาเองก็บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ โดยที่ประเด็นต่างๆ ที่เคยอยู่ในโซนอันตรายก็สามารถตกลงกันได้ทั้งหมด
"ผมหวังว่าจีนจะไม่แอบกระพริบตาให้สหรัฐฯ” นายเซดิลโล กล่าว
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการประชุมร่วมดังกล่าว ไอเอ็มเอฟได้ประกาศปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 ในแถบยุโรปและตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง
คณะกรรมการของไอเอ็มเอฟเองออกมาชี้ว่า ถึงแม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะยังเข้มแข็งอยู่ แต่อนาคตกับยังอยู่ภายใต้เงามืดของความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ที่มีอย่างต่อเนื่องด้วยภาวะทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดเกิดใหม่และประเทศที่กำลังพัฒนา
ผู้วางนโยบายของรัฐหลายคนออกมาเตือนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและความไม่แน่นอนของตลาด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ชี้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเป็นการสร้างความเจ็บปวดให้กับตลาดเกิดใหม่
นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย ผู้ต้องเผชิญกับปัญหาค่าเงินตกต่ำท่ามกลางเส้นทางในการเป็นตลาดเกิดใหม่ ได้เรียกร้องให้นโยบายการเงินของโลกมีการสอดคล้องกันมากกว่านี้และเรียกร้องให้พหุภาคีออกมาโต้ตอบกับเหล่าผู้สนับสนุนมาตรการการขัดขวางการค้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการประชุมได้จบลงไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าความคืบหน้าในการหาทางออกระหว่างข้อพิพากษ์ระหว่างจีนและสหรัฐเองก็ยังไม่ได้มีมากนัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :