แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข จัดส่งทีมแพทย์ 3 ทีม จำนวน 32 คน สลับกันปฏิบัติงาน ประกอบด้วย แพทย์ 7 คน เภสัชกร 3 คน พยาบาลวิชาชีพ 17 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5 คน พร้อมเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค อุปกรณ์ป้องกันโรค และ จัดสถานที่ห้องฉุกเฉิน ห้องตรวจ ห้องพักผู้ป่วยและคลังยา รวมถึงระบบโปรแกรมฐานข้อมูลผู้ป่วย เพื่อดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2561 โดยตั้งจุดรักษาพยาบาล 2 แห่ง คือ เมืองเมกกะและเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีนายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เป็นที่ปรึกษา และนายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซ๊ะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เป็นหัวหน้าประจำ หน่วยบริการดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญชาวไทย ที่เมืองเมกกะและเมืองมาดีนะห์ ขณะนี้มีผู้แสวงบุญ ชาวไทยมุสลิมเดินทางมาถึงแล้ว จำนวน 3,207 คน พบว่ามีสุขภาพดี
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขแบ่งการทำงานทีมงาน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.-16 ก.ย.61 รวม 64 วัน ให้การดูแลรักษาพยาบาลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญประกอบพิธีฮัจย์โดยไม่คิดมูลค่า มีภารกิจคือ 1.ตรวจรักษา 2.ประสานการส่งต่อผู้ป่วย 3.ติดตามเยี่ยมผู้แสวงบุญ ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่ 4.ดูแลผู้ป่วยวิกฤต และ 5.ออกเยี่ยมผู้แสวงบุญกลุ่มที่มีความเสี่ยงตามโรงแรม โดยประสานความร่วมมือและระบบการส่งต่อผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลของประเทศซาอุดีอาระเบีย ในกรณี ที่จำเป็นต้องใช้การรักษาพยาบาลในระดับสูงขึ้น
สำหรับผลการรักษาพยาบาลของหน่วยพยาบาลทีมแรก ที่เมืองมาดีนะห์ เปิดให้บริการ (ไม่เป็นทางการ)ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 มีผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมประมาณ 10 คน ที่เข้ารับบริการด้วยอาการระบบทางเดินหายใจ ระบบกล้ามเนื้อ และมีแผลเบาหวานที่เท้า ซึ่งอย่างไรก็ตามแพทย์ได้ให้การรักษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรค รวมถึงการดูแลสุขภาพทั่วไปแก่ผู้แสวงบุญ เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด รับประทานอาหารสะอาด และงดสูบบุหรี่ ยังไม่พบการส่งต่อเพื่อรักษาในโรงพยาบาลของประเทศซาอุดิอาระเบีย
ทั้งนี้ สภาพอากาศโดยทั่วไป มีอากาศร้อน ลมแรง และแห้งอบอ้าว อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 38-42 องศาเซลเซียส