นางณัฐญา นิยมานุสร ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กรณีการอ่อนตัวลงของค่าเงินตุรกีในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย โดยมูลค่าการลงทุนของกองทุนรวมไทยในตุรกีมีมูลค่าเพียง 7 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.15 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมไทย โดยเป็นการลงทุนของกองทุนรวมตราสารหนี้ 2 กองทุนภายใต้การจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 2 แห่งในเงินฝากและตราสารหนี้ของธนาคารตุรกีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโร ซึ่งได้มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป แต่ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทจัดการที่มีการลงทุนในตุรกีได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศตุรกี และผลกระทบต่อกองทุนรวม รวมถึงดำเนินการเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ก็จะมีการติดตามสถานการณ์และผลกระทบต่อไปด้วย
ด้านนางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิดจากเหตุการณ์ในประเทศตุรกี ความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และ การเงินของไทยกับประเทศตุรกียังไม่สูงมาก ผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยจึงอยู่ในวงจำกัด พร้อมทั้งจะติดตามผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ และ ช่องทางการส่งผ่านต่างๆ เพื่อประกอบการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :