ไม่พบผลการค้นหา
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งข้อหา 'ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน' และ 'ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่' แก่ครอบครัวที่ด่าทอและต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ระยองเมื่อสัปดาห์ก่อน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง กำลังปฏิบัติหน้าที่ แล้วมีกลุ่มคนแสดงกิริยาไม่พอใจ ด่าทอเจ้าหน้าที่ ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าวแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้งสามแล้ว ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน 

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอศาลผัดฟ้องผู้ต้องหาทั้งสามคนแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นจะสรุปสำนวนส่งไปยังพนักงานอัยการตามกฎหมายต่อไป 

สำหรับประเด็นที่ผู้ต้องหาทั้งสามมาแจ้งความ สภ.มาบตาพุด ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายเช่นกันนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือส่งตัวผู้ต้องหาเพื่อตรวจร่างกาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป โดยประเด็นนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ลงไปตรวจสอบและให้ตำรวจชี้แจงขึ้นตามลำดับชั้นแล้ว และได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยว่ากันไปตามพยานหลักฐาน เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ จ.ส.ต.วัชระ ชัยกุลเสรีวัฒน์ ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณจุดกลับรถหมวดการทางมาบตาพุด พบรถกระบะจอดอยู่ในเขตห้ามจอด เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก โดยขณะที่กำลังออกใบสั่งอยู่นั้นได้มีนายพะยอม มาแสดงตนเป็นเจ้าของรถคันดั��กล่าว ก่อนเคลื่อนย้ายรถออกไป ด้าน จ.ส.ต.วัชระ แจ้งข้อกล่าวหาให้นายพะยอมทราบ แต่นายพะยอมแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ ชี้หน้า ต่อมามี น.ส.หทัยรัตน์ และนายอิทธิพล ซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัวนายพะยอมเข้ามาร่วมสมทบ ก่อนที่นายอิทธิพลจะชกเข้าที่ใบหน้าของ จ.ส.ต.วัชระจนบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่จึงห้ามปราม และแยกย้ายออกจากกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงนำตัวบุคคลที่ก่อเหตุมาที่ สภ.มาบตาพุด โดย พงส.สภ.มาบตาพุด แจ้งข้อกล่าวหา นายอิทธิพล สมถวิล ผู้ต้องหา ในข้อกล่าวหา ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้บันทึกคลิปวิดีโอและนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และมีผู้นำไปเผยแพร่ต่อเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะครอบครัวของผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคนตั้งฉายาว่า 'ครอบครัวหัวร้อน'

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: