ไม่พบผลการค้นหา
อดีตผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รับหน้าที่ประสานงานภาคเหนือพรรคพลังประชารัฐ คาดจะชนะการเลือกตั้ง กวาดที่นั่ง ส.ส. ภาคเหนือเกินครึ่ง ยืนยันแม้ไม่เคยลงสมัคร ส.ส. แบ่งเขต แต่รู้จักคนในพื้นที่ดี

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรคคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว 'วอยซ์ ออนไลน์' ว่า ตอนนี้ตนย้ายมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว จากการชักชวนของเพื่อนๆ นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 นักเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 36 และรุ่นใกล้เคียง ที่ต้องการให้ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม ซึ่งตนเห็นว่าการเลือกตั้งคราวหน้าไม่ควรจะให้เกิดความขัดแย้ง หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่าย พร้อมยืนยันว่าการย้ายพรรคครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ หรือคดีความ แต่เป็นเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมือง และมิตรภาพ

อย่างไรก็ตาม ร.อ. ธรรมนัส เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ตนได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งพื้นเพของตนเป็นคนพะเยา จึงคาดว่าจะส่งน้องชายและญาติลงสมัครับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตในจังหวัดทั้ง 3 เขต โดยเฉพาะเขต 1 และ 3 ตนเชื่อว่าผู้สมัครของตนนอนมาแน่นอน ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะส่งตัวแทนคนรุ่นใหม่ และอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย และไทยรักไทย ลงสมัครับเลือกตั้ง ส่วนตนเองจะไม่ลงสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต แต่จะลงแบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในพรรคให้โอกาส

แม้หลายฝ่ายจะมองว่าตนไม่มีประสบการณ์การหาเสียงและลงสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมาก่อน แต่ยืนยันว่าตัวเองเป็นคนในพื้นที่ รู้จักประชาชน และทำงานร่วมกับองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น อบจ. ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้น ส่วนภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคสนับสนุนทหารจะมีผลต่อการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส เชื่อว่า ประชาชนจะเลือกที่ตัวบุคคลไม่ใช่พรรค ดังนั้นหากทำความเข้าใจกับประชาชน และเลือกผู้สมัครที่เข้าใจความทุกข์ และช่วยเหลือประชาชนมาตลอดย่อมจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน และคาดว่าจะชนะการเลือกตั้งอย่างน้อยเกิน 50% ในพื้นที่ภาคเหนือ

"มันอยู่ที่เราทำความเข้าใจชาวบ้านขนาดไหน เราช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยมาตลอด เราจะสามารถอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจ และจะสามารถนำความเจริญมาให้ได้ ผู้สมัครที่คัดเลือกมาคือคนที่เข้าใจชาวบ้าน ไม่ใช่ ส.ส. ที่ไม่เคยมาดูแลชาวบ้านตอนเดือดร้อน จะมาก็ตอนเลือกตั้ง หรือรอยกมือในสภาอย่างเดียว"

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย คนอื่นยังคงดีอยู่ เพราะตนเคยให้ความอนุเคราะห์เกื้อกูลกันมา แต่เพียงแค่แยกทางกันเดินเท่านั้น ซึ่งพอหลายคนรู้ว่าต้องมาแข่งขันกับตนเองก็มีถอดใจบ้าง อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบว่าจะมีการประชุม ครม. สัญจร 17-18 กันยายนนี้ ที่จังหวัดพะเยา-เชียงราย แต่หากคณะรัฐมนตรีเดินทางมาจริงๆ ตนและผู้สมัครในพื้นที่ก็จะมาต้อนรับ เพราะเป็นหน้าที่และมารยาทที่ต้องทำอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมือง