สื่อหลายสำนักของสหรัฐฯ รายงานว่าเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นฮวาซง-15 เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น และเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปวิถีโค้ง ซึ่งมีเพดานบินสูงที่สุดเท่าที่เคยทำการทดสอบมา โดยสูงกว่า 4,475 กิโลเมตร และยิงได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร รวมเป็นเวลานาน 50 นาที ก่อนจะตกลงในทะเลญี่ปุ่น
นายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ รายงานเรื่องนี้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้นายทรัมป์ออกมาประกาศว่า เขาจะจัดการกับเกาหลีเหนืออย่างแน่นอน
การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศยกระดับมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมได้ไม่นาน และนายลินด์ซีย์ แกรห์ม ส.ว. สหรัฐฯ สังกัดพรรครัฐบาลรีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศว่าการทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่ของเกาหลีเหนือ อาจนำไปสู่สงครามได้ และเกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบหากมีความเสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายยั่วยุจนอาจจะเกิดผลเสียที่ร้ายแรงด้วยตัวเอง และหากสหรัฐฯ จะต้องทำสงครามเพื่อยุติความขัดแย้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไม่นาน นายไอกอร์ มอร์โกลอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่าเกาหลีเหนืออยู่ในภาวะสงบ ไม่มีการทดสอบอาวุธใดๆ นับตั้งแต่การทดสอบขีปนาวุธครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน แต่ทางการสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรในภูมิภาคยังคงเดินหน้าฝึกซ้อมรบร่วมกัน เข้าข่ายยั่วยุไม่ต่างจากท่าทีของเกาหลีเหนือ
นายมอร์โกลอฟระบุว่าหากต้องการยุติความขัดแย้งในภูมิภาคจริง สหรัฐฯ ควรจะต้องปรับลดท่าทีแข็งกร้าวของตัวเองลงด้วย และรัฐบาลเกาหลีใต้น่าจะพร้อมเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้เกาหลีเหนือกลับสู่กระบวนการเจรจาระหว่างประเทศ แต่ถ้าสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะใช้วิธีแข็งกร้าวก็จะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคเลวร้ายถึงขั้นวันสิ้นโลกได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเพดานบินสูงที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา
'เรือผี' สะท้อนภาวะขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือ
คิวบา-เกาหลีเหนือจับมือต้านสหรัฐฯ