วันที่ 1 เม.ย. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธาน กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ร้องขอให้ตรวจสอบนโยบาย ‘ครอบครัวเพื่อไทย: บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม’ ของพรรคเพื่อไทย ว่าเป็นนโยบายที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และเข้าข่ายผิดต่อจริยธรรมหรือไม่

สนธิญา ระบุว่า จากการประกาศนโยบายดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย เป็นการเปิดรับสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อไปสู่ 14 ล้านเสียงที่เคยได้มา และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล จึงจำเป็นต้องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า การประกาศรับเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการรับสมาชิกนักการเมืองด้วยหรือไม่ เพราะการจะรับสมาชิกพรรคการเมือง ต้องได้รับการรับรองจากนายทะเบียนพรรคการเมืองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 

ทั้งนี้ สนธิญา ยังขอเรียกร้องให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชี้แจงว่า การรับสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมัครนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติข้อใดของรัฐธรรมนูญ เพราะการเป็นสมาชิกย่อมหมายความว่าสามารถทำกิจกรรม หรือแสดงความคิดเห็นในนามของครอบครัวเพื่อไทยได้ อาจจะมีปัญหาว่าขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้ามาทำกิจกรรม หรือเสนอแนวทางนโยบายในพรรคการเมือง 

“พรรคเพื่อไทยต้องอธิบายให้ได้ว่าใช้กฏหมายฉบับใดในการทำเช่นนี้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีการทำกิจกรรมอะไรมากไปกว่านี้ หรือมีการเลือกตั้ง และมีการร้องในตอนนั้นว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย ถึงขึ้นยุบพรรคได้ ฉะนั้น เหลือเวลาอีก 10 เดือน หรือเกือบปี ในการจะเลือกตั้ง คุณก็ทำให้เคลียร์ทุกอย่าง ประชาชนจะได้หายข้องใจ ผมก็หายข้องใจ ไม่ตามตอแยอะไรทั้งสิ้น”