ไม่พบผลการค้นหา
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ สนทช. ย้ำพายุไต้ฝุ่นมังคุด เริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่ยังส่งผลให้ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง ระวังดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และน้ำป่าไหลหลาก

นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 04.00 น. พายุไต้ฝุ่นมังคุด บริเวณประเทศจีนตอนใต้ ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหนานหนิง ประเทศจีน ประมาณ 63 กม. เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำ คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนเข้าสู่เขตมณฑลยูนนาน ในวันที่ 18 ก.ย. ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันตกเฉียงเหนือ มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 30 จังหวัด โดย 24 ชม. ที่ผ่านมามีฝนตกหนักในภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลาง มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง

นายสำเริง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา - ปราจีนบุรี - บางประกง ว่า ให้เร่งระบายน้ำในระบบชลประทานในแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก หลังคาดการณ์ปริมาณฝนที่จะตกต่อเนื่องในพื้นที่ โดยพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกต้องปรับแผนระบายน้ำเพื่อการระบายน้ำเพื่อแบ่งรับน้ำจากแม่น้ำในและแม่น้ำนครนายก โดยให้กระทบต่อพื้นที่น้อยที่สุด และการบริหารจัดการพื้นที่ทุ่งรับน้ำ