พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. กล่าวในตอนหนึ่งกับเยาวชนที่มารอต้อนรับคณะเดินทาง ครม. สัญจร ที่ชุมชนบ้านเปร็ด จ.ตราด ว่า ขอให้เลือกเรียนในสาขาวิชาที่จบมาแล้วมีงานทำไม่ใช่เรียนแต่สิ่งที่ง่ายเพียงอย่างเดียว และขออย่าทะเลาะกันเพราะทุกคนเป็นคนไทย พร้อมยืนยันว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและเกิดความเรียบร้อยเผื่ออนาคตลูกหลานจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปบ้านเมืองจะได้ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้
หลังจากนี้ขอให้ช่วยตนเองทำประเทศให้ดี ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองสงบเพราะคนไม่มีกลุ่ม ขออย่าแบกรับทุกเรื่องเข้ามาคิด เช่น กรณีล็อตเตอรี่ 30 ล้านที่เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ ปล่อยให้กลไกของกฏหมายทำงานไป และยอมรับผลที่ออกมาเพราะส่วนตัวไม่ก้าวล่วงอยู่แล้ว
ขณะที่เรื่องประชาธิปไตยต้องมี และส่วนตัวไม่เคยคิดว่าจะไม่มี แต่ควรมีเมื่อพร้อม พร้อมสอบถามประชาชนว่า จะเลือกใครเข้ามาทำหน้าที่และต้องเลือกเป็นหากได้กลับมาเป็นแบบเดิมจะทำอย่างไร
พร้อมบอกด้วยว่า ขณะนี้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขแล้ว เพราะเป็นสิ่งสำคัญของประเทศที่จะสามารถทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ จึงขออย่าไปฟังเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้มาเข้ายุยงเพื่อให้ชื่นชอบตนเองหรือเกลียดใคร และยังเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ไปลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ซึ่งต้องศึกษาและเรียนรู้ถึงความสำคัญด้วย โดยไม่ใช่แค่ไปรับเงินอย่างเดียว เพราะเดี๋ยวจะหาว่านายกฯ ซื้อเสียง
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ และคณะยังได้เยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บริหารจัดการน้ำและป่าชายเลน ชุมชนบ้านเปร็ดใน ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งเป็นชุมชนตัวอย่างในเรื่องการบริหารจัดการป่าชายเลน การอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อย่างยั่งยืน และยังเป็นชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการระบบสัจจะออมทรัพย์ จนสามารถปลดหนี้ของชุมชนและสร้างเงินออม ซึ่งเตรียมพัฒนาให้เป็นสถาบันการเงินชุมชนต่อไป โดยนายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บริหารจัดการน้ำและป่าชายเลนชุมชนบ้านเปร็ดใน รวมทั้งหมด 4 จุด คือ จุดที่ 1 ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน มรดกผืนป่าตะวันออก จุดที่ 2 ระบบการบริหารจัดการน้าจืด-น้าเค็ม จุดที่ 3 การสำรองและกักเก็บน้ำจืด และจุดที่ 4 เกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฎีใหม่
โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือกันโดยไม่รอรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเดียว แต่รัฐบาลก็มีงบประมาณส่วนหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยไม่ปล่อยให้ประชาชนทำฝ่ายเดียว เช่นการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เห็นผล
ต่อมานายกฯ ยังได้เปิดสถานีโทรมาตรตรวจวัดสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติสถานีบ้านเปร็ดใน ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) ได้พัฒนาระบบโทรมาตรเพื่อตรวจวัดข้อมูลระยะไกล ขนาดเล็กและสามารถเชื่อมโยงข้อมูลอัตโนมัติทันทีผ่านระบบรับส่งข้อมูลของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงข้อมูลโดยง่ายและใช้งานข้อมูลทรัพยากรน้ำด้านต่างๆ บริหารจัดการน้ำชุมชนด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากนั้น จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะจะเดินทางไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ (เกาะช้าง) เพื่อรับฟังข้อเสนอการพัฒนาเกาะช้าง เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อย่างยั่งยืน การบริหารจัดการขยะ การแก้ปัญหาน้ำ การคมนาคมสัญจร และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เป็นต้น พร้อมพบผู้ประกอบการและชาวบ้านเกาะช้าง ประมาณ 300 คน อีกทั้งเยี่ยมชมจุดท่องเที่ยวและพบปะนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดคลองพร้าว
