นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสว่าง กาลพัฒน์ เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษและมหกรรมยางพาราและนวัตกรรม 2019 ซึ่งกำหนดจัดงานนี้ขึ้นในระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน 2562 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ  เพื่อเชื่อมโยงตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ สู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ จะมีการเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มิถุนายน 2562 นี้

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ ปลูกไม้ผล เมื่อปี พ.ศ. 2531 และเริ่มให้ ผลผลิตครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537 นับว่าจังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดแรกๆ ของภาคอีสานที่ปลูกทุเรียนและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมีรสชาดอร่อย กรอบนอก นุ่มใน กลิ่นไม่ฉุนมาก และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วไป  ปัจจุบันจังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ปลูกทุเรียนภูเขาไฟพันธุ์หมอนทอง ประมาณ 6,097 ไร่ ในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ศรีรัตนะและอำเภอขุนหาญ มีผลผลิตประมาณ 4,799.22 ตัน จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท สามารถสร้างรายได้ให้จังหวัดประมาณ 671.89 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผลไม้เศรษฐกิจอีกหลายชนิดที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ เช่น เงาะ ลำไย มังคุด ลองกอง สามารถสร้างรายได้ปีละหลายล้านบาทด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ปัญหากรณีที่มีการนำเอาทุเรียนอ่อนออกมาขาย เพื่อเป็นการป้องกันจึงได้จัดตั้งสารวัตรทุเรียนขึ้นเพื่อให้สอดส่องพ่อค้าที่ขายทุเรียนอย่างเป็นทางการ หากพบพ่อค้าที่นำเอาทุเรียนอ่อนมาขายให้ดำเนินการจับกุมทันทีและมีโทษหนักมาก จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วประเทศว่า หากไปชิมทุเรียนที่ใดแล้วผิดหวังกับความอร่อย ให้มาชิมลิ้มรสทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษในงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ มหกรรมยางพาราและนวัตกรรม 2019

"ขอยืนยันว่า ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ อร่อยมากและเป็นทุเรียนที่ดีที่สุดในโลก นักบริโภคทุเรียนจะไม่ผิดหวังอย่างเด็ดขาด ตนรับรองได้ในเรื่องความอร่อยของทุเรียนภูเขาไฟแห่งเดียวในโลก" ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าว

นายสว่าง กาลพัฒน์  เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า งานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เป็นกิจกรรมซึ่งจังหวัดได้ริเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาทุกปี โดยเป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุเรียนศรีสะเกษมีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้ โดยเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาด และยังไปการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยมีการให้บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนทุเรียน เลือกชิมและเลือกซื้อทุเรียนจากสวนในราคาย่อมเยา ซึ่งทำเกิดรายได้ต่อชาวสวนและสร้างรายได้เข้าจังหวัดปีละหลายร้อยล้านบาท

น.ส.ธมลวรรณ กล่าวว่า ตนได้ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเครือข่ายของ ททท. เพื่อเชิญชวนให้นักเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม ชิม ช๊อป ทุเรียนภูเขาไฟและผลไม้ต่างๆ  ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไม่ได้ชอบทุเรียนแต่อย่างใด แต่ว่าเมื่อได้มาชิมทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ชาวต่างชาติทั้ง 2 ประเทศมีความชื่นชอบทุเรียนภูเขาไฟมาก เนื่องจากว่า ทุเรียนภูเขาไฟกรอบนอก นุ่มใน รสชาติละมุนลิ้น ที่สำคัญคือกลิ่นไม่ฉุนมาก