ต่างประเทศ
โควิด-19: ฝรั่งเศส สเปนและอังกฤษ เตรียมคลายล็อกดาวน์ - ผู้ติดเชื้อมากกว่า 4 ล้านรายทั่วโลก
10 พ.ค. เว็บไซต์ Worldometers รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 4,100,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้วทั้งหมด 280,431 ราย โดยมีสหรัฐฯเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 1,347,309 รายและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 80,037 ราย ขณะที่อังกฤษยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 31,587 ราย
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่แท้จริงนั้น อาจจะมากกว่าที่มีการรายงาน เนื่องจากหลายประเทศยังคงมีอัตราการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อที่อัตราที่ต่ำ
ด้านประเทศฝรั่งเศสวานนี้ (9 พ.ค.) มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อน้อยที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยมีผู้เสียชีวิตเพียง 80 รายเท่านั้น ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เพิ่มขึ้นเพียง 579 ราย ทำให้ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อแล้ว 176,658 ราย และมีผู้เสียชีวิต 26,310 ราย
ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (11 พ.ค.) รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะอนุญาตให้ร้านทำผมให้บริการได้อีกครั้ง รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ ยกเว้นห้างสรรพสินค้าให้สามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง. ขณะที่ร้านอาหาร คาเฟ่และบาร์ยังไม่อนุญาตให้เปิดทำการ
นอกจากนี้ประชาชนสามารถเดินทางได้ภายในรัศมี 100 กม.จากที่บริเวณที่อยู่อาศัยเท่านั้น และขนส่งสาธารณะจะกลับมาให้บริการอีกครั้ง
ขณะที่ ประเทศสเปน ในวันจันทร์นี้รัฐบาลจะอนุญาตให้บางพื้นที่ของประเทศสามารถเปิดบาร์ และ ร้านอาหารได้อีกครั้งโดยจำกัดพื้นที่เฉาพะในส่วนที่เป็นบริเวณเอ้าท์ดอร์เท่านั้น ขณะที่โบสถ์ โรงภาพยนตร์และพิพิธภัณฑ์จะเปิดให้บริการอีกครั้งแต่จะจำกัดจำนวนการเข้าชม
ทั้งนี้สเปนเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเริ่มจากอนุญาตให้ประชาชนออกไปทำงานได้อีกครั้งในบางสายงานการผลิต รวมไปถึงการอนุญาตให้เด็กสามารถออกมาเดินเล่นนอกบ้านได้วันละ 1 ชม. หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่ในสเปนมีแนวโน้มลดลงมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ทางด้านประเทศอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษประกาศทุ่มเงินกว่า 250 ล้านปอนด์ เพื่อปรับปรุงเส้นทางจักรยานและทางเท้าทั่วประเทศ และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะอนุญาให้ประชาชนออกมาออกกำลังกายในพื้นที่สาธารณะได้อีกครั้ง แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19ในอังกฤษจะยังคงมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ยกเว้นรัสเซีย
