บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษได้ผ่านช่วงเวลาของการระบาดสูงสุดแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงที่มียอดผู้ติดเชื้อกำลังลดลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา อังกฤษมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 674 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 26,711 ราย ซึ่งมากที่สุดรองจากอิตาลีและสหรัฐฯ ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ในอังกฤษเพิ่มขึ้นถึง 6,032 ราย ทำให้อังกฤษมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 171,253 ราย มากกว่าผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ นายกฯ อังกฤษยังกล่าวว่า เขาเตรียมจะเสนอแผนมาตรการคลายล็อกดาวน์ในสัปดาห์หน้าโดยรัฐบาลจะใช้แนวทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวชี้วัด โดยมีหลักการ 5 ข้อดังนี้
ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษถูกวิจารณ์ว่าขาดความพร้อมในการรับมือกับการระบาดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นที่มีการระบาดในยุโรป และยังไม่สามารถจัดหาอุุปกรณืป้องกันอย่างชุด PPE ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้ รวมไปถึงไม่สามารถตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อที่ตั้งเป้าไว้วันละ 100,000 รายได้ตามที่เคยกล่าวไว้
ปัจจุบันอังกฤษตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 901,905 ราย ซึ่งน้อยกว่าประเทศเยอรมนีที่มีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อไปแล้วถึง 2,547,052 ราย
ทางด้านอิตาลี ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในยุโรป มีแผนจะเปิดให้บริการสนามบินอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยสนามบินในโรม และสนามบินในเมืองฟลอเรนซ์ หลังจากรัฐบาลอิตาลีมีคำสั่งปิดสนามบินมานานกว่า 2 เดือน
ทางกระทรวงคมนาคมของอิตาลีกล่าวว่า 'การกลับมาให้บริการของสนามบินทั้งสองแห่งนี้ส่วนหนึ่งจะเป็นการทดสอบระบบการคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนาในกลุ่มผู้ที่เดินทาง'
อย่างไรก็ตาม สนามบินสองแห่งนี้เป็นสนามบินที่รองรับสายการบินต้นทุนต่ำของอิตาลี ขณะที่สนามบินนานาชาติของอิตาลีนั้นยังไม่มีกำหนดการเปิดให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์
ปัจจุบัน รัฐบาลอิตาลีเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดลง หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในอิตาลีเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวานนี้อิตาลีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้ว 27,967 รายและมีผู้ติดเชื้อถึง 205,463 ราย
ที่มา the local / Euronews / worldometers