วันที่ 2 ก.พ. 2566 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งมีแกนนำคนสำคัญเข้าร่วม นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย รวมถึงตนเองในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย 

โดยจะมีการพบปะหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญฝั่งอันดามัน ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มีสัญญาณบวกด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมองว่ารัฐบาลควรมีบทบาทในการนำกลไกต่างๆ เข้ามาช่วยเสริมให้กับผู้ประกอบการ เพื่อเรียกคืนสิ่งที่ผู้ประกอบการสูญเสียไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด ในโอกาสนี้ จะนำเสนอนโยบายด้านการท่องเที่ยวของเพื่อไทย ที่ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิต วิถีชีวิตของคนพื้นที่อิงกับการท่องเที่ยว โดยมีผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต พรรคเพื่อไทย 3 คนเข้าร่วมหารือด้วย

จากนั้นจะเดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนที่สะพานสารสิน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนจะเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทยที่อุทยานพระนารายณ์ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ในเวลา 16:30 น. ซึ่งนอกจากแกนนำคนสำคัญของพรรคแล้ว ยังมีผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พังงา พรรคเพื่อไทย2 คน ขึ้นเวทีด้วย

“พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในพังงาครบทั้ง 2 เขต หนึ่งใน 2 เขตนี้ มีนายกฤษ ศรีฟ้า อดีต ส.ส. หนึ่งเดียวของพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2558 ภายหลังรัฐประหาร 2549 ขณะนั้นนายกฤษเป็นกรรมการบริหารพรรค ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นายกฤษหวนคืนเวทีการเมืองอีกครั้ง และเป็นความหวังสำคัญอีกเขตหนึ่งของพรรคเพื่อไทยในภาคใต้รวมถึง นายธเนศ นาวาล่อง ที่รับราชการคลุกคลีคนในพื้นที่มาตลอด จะลงในอีกเขตด้วย เรามั่นใจว่าครั้งนี้ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยน่าจะได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชน เพราะหลายเขตหลายพื้นที่เป็นบุคลากรมีคุณภาพ และลงพื้นที่ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง” ณัฐวุฒิ กล่าว

ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะยังไม่ประกาศตัวเลขคาดหวังในพื้นที่ภาคใต้ แม้เป็นมวยรอง แต่จะทำงานสุดความสามารถเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้ได้ พรรคเพื่อไทยมีทั้งนโยบายภาพใหญ่ของคนทั้งประเทศและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับภาคใต้ ทั้ง ท่องเที่ยว พืชผลทางการเกษตร ประมง มั่นใจว่าหากปักธงในภาคใต้ได้ จะทำงานเต็มที่ และจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรครวมไทยสร้างชาติ นำเสนอตัวเองเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมชัดเจน เช่น การไปปรากฎตัวที่สื่อมวลชนสำนักหนึ่ง ที่ไม่ค่อยเห็นนายรัฐมนตรีคนอื่นๆ ทำกัน เชื่อว่าพรรคที่ได้รับผลกระทบคือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยยืนจุดนั้นมาก่อน แต่วันนี้พลเอกประยุทธ์ประกาศตัวในพื้นที่ตรงนั้นในวันที่พรรคประชาธิปัตย์ยังซบเซา 

อย่างไรก็ตาม การขยับตัวและจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นไปได้ว่าพลเอกประยุทธ์จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดังนั้น เชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้ไม่ยาก จากปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ ตลอด 8 ปี ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าด้วยนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง แก้ปัญหาได้จริง ขณะนี้รอเพียงว่ายุบสภาเมื่อไหร่ จะได้ประกาศนโยบายชุดใหญ่ชุดสำคัญที่จะใช้หากได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาล