วันที่ 3 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 12 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) โดยมี ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระที่สอง ซึ่งเป็นขั้นพิจารณาเรียงลำดับรายมาตรา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า การพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีความล่าช้า เพราะมีการสงวนคำแปรญัตติไว้ทุกมาตรา และใช้เวลารอสมาชิกเพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุมให้มีจำนวนถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา คือ 364 คน เป็นเวลาค่อนข้างนานในแต่ละมาตรา ซึ่งพบปัญหานี้มาตั้งแต่เปิดประชุมในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้
โดยช่วงหนึ่งของการประชุม ชวน กล่าวว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสมาชิกฯ ตนขอชื่นชม อย่างน้อยสมาชิกฯ อาจจะเกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 2-3 คน แต่แสดงให้เห็นความรับผิดชอบของคนส่วนใหญ่ที่ดีอยู่ เราทำหน้าที่หน้าที่มา 3 ปี กว่า สถาบันนี้มีส่วนประคับประคองให้กระบวนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยไปได้
"ผมชื่นชมพวกเราทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีเท่าที่ทำได้ ข้อที่ไม่ควรละเลย คือ หน้าที่ต้องประชุมและลงมติ ผมไม่หวังว่า จะได้ร้อยทั้งร้อย แต่เกินกึ่งหนึ่ง 2 หรือ 5 คน ก็ชื่นชม ที่บางคนให้ประกาศชื่อคนกดบัตรแสดงตนนั้น ผมขอบอกว่าไม่มีความลับ ผมเตือนด้วยความหวังดี เพราะมีประสบการณ์ชื่อของเราจะปรากฎตอนหาเสียงเขตเลือกตั้งที่คู่ต่อสู้เอาไปประจานความไม่รับผิดชอบไม่เข้าประชุม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพิจารณาถึงกาารลงมติในมาตรา 8 ซึ่งองค์ประชุมที่แสดงตนยังไม่ครบ ทำให้ ชวน ได้กดออดเรียกหลายครั้ง พร้อมย้ำว่าหากลงมติผ่านไปในมาตรานี้ มาตราต่อไปไม่มีการแก้ไข โดยมาตรา 12 มีการแก้ไขเป็นมาตราสุดท้าย จากนั้นการพิจารณาก็จะแล้วเสร็จ จึงขอให้สมาชิกฯ ช่วยกันชวนพรรคพวกเข้ามาร่วมลงมติให้ผ่านไปในมาตรานี้ ซึ่งองค์ประชุมยังขาดอยู่ 20 คน
จากนั้น คารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนอยากให้ประธานอดทนให้มากที่สุดสำหรับกฎหมายฉบับนี้ ประโยชน์ทุกอย่างของพรรคของฝ่ายต้องไม่มากกว่าประโยชน์ประชาชน
ซึ่ง ชวน ตอบว่า ต้องชื่นชมสมาชิกฯ ความจริงตนควรขอบคุณทุกคน ที่เจอสภาพอย่างนี้แล้วยังอดทนรอคอย
"อดทนนะครับ อดทนนี่คือปรากฏการณ์ระบอบประชาธิปไตยที่ประกอบไปด้วยคน" ชวน ย้ำ
เฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. ลุกขึ้นแจ้งต่อประธานฯ ว่า มีสมาชิกฯ หลายท่านบอกตนให้เรียนต่อประธานสภาฯ ว่า ให้ยุบสภาไปเลย
โดยชวน ชี้แจงว่า รัฐสภาเพิ่งสร้างตั้งหมื่นกว่าล้านบาทจะยุบได้อย่างไร อำนาจยุบสภาไม่ได้อยู่ที่เรา เราเป็นผู้สร้างสภา พร้อมขอให้อดทน เพราะนี่เป็นปรากฏการณ์ปกติของประชาธิปไตย
จากนั้น อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นตอบโต้ว่า เห็นฝั่งซ้ายบอกให้ยุบสภาฯไปเลย แต่ตนคิดว่าให้ยุบ ส.ว.ไปก่อน เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
ชวน จึงตัดบทว่า ต่างฝ่ายอย่ายุบกันและกัน ไม่ควรโต้เถียงโดยไม่จำเป็น เพราะเรากำลังทำหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์อยู่ จากนั้น อมรัตน์ ได้ลุกกล่าวอีกครั้งว่า ในขณะที่องค์ประชุมกำลังขาดอยู่นี้ ขอให้เชิญผู้นำเหล่าทัพมาร่วมประชุมก็น่าจะดี ซึ่ง ชวน ได้ตอบพร้อมหัวเราะว่า “ผมคิดว่า ไปเชิญเองดีกว่าไหม” ทำให้ อมรัตน์ จึงตอบว่า “หากดิฉันมีอำนาจทำได้ ก็ทำไปแล้ว”
จากนั้น สมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ลุกขึ้นหารือว่าจะเรียกประชุมรัฐสภา 9-10 ส.ค.ได้หรือไม่เพื่อพิจารณาต่อให้ทัน ทั้งนี้ ชวนบอก มีการประชุมวุฒิสภาในวันดังกล่าวจึงไม่สามารถจัดประชุมร่วมรัฐสภาได้
สมชาย ย้ำว่า ถ้าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เข้าไม่ได้จะทำอย่างไร โดย ชวนบอกว่า ถ้าจบร่างที่กำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ก็จะเข้า ถ้าไม่พร้อมก็ต้องเลื่อนไป พยายามจะให้จบกฎหมายนี้เพื่อเริ่มวาระ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตนได้รับแจ้งมีประชุมร่วม 9-10 สภามีประชุมจากนั้นต่อ ประชุมวุฒิสภา 8 ส.ค. แต่ชวน บอกว่ายังไม่ได้ตกลงกัน เป็นเพียงความคิดเท่านั้น และประชุมวุฒิสภามีประชุมพิเศษในวันที่ 8-9 ส.ค. พร้อมแจ้งว่าจะมีการประชุมสภาฯ วันทีื 10-11 ส.ค. โดยวันพรุ่งนี้จะมีการหารือนอกรอบอีกครั้ง
"ขณะนี้ยอดองค์ประชุมยังขาดอยู่ 20 คนขอพวกเราช่วยหน่อยครับ" ชวน ย้ำ
ขณะที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ขอเลื่อนญัตติพิจารณาร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเกรงว่าหากไม่ทันกรอบเวลา 180 วัน กฏหมายดังกล่าวจะตกไป ตนไม่ได้กังวลเรื่องทันเวลา แต่ห่วงว่าสภาจะเสียชื่อที่พิจารณากฏหมายไม่ทันเพราะสภาล่ม จึงขอย้ำต่อประธานฯ ว่าอย่างน้อย น่าจะบรรจุญัตติพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ขึ้นมาพิจารณาก่อนในวันที่ 9 ส.ค. นี้ได้
โดย ชวน ย้ำว่า จะหารือกับวิป 3 ฝ่าย เรื่องเวลาการประชุม แต่เห็นด้วยกับ นพ.ระวี ว่าสภาจะเสื่อมเสีย เพราะผู้ที่ไม่ทำหน้าที่รับใช้สภา แต่ไปรับใช้อะไรก็ไม่รู้ ซึ่งสภาต้องรับผิดชอบ จึงขอร้องสมาชิกฯ ให้มีความอดทน ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับว่าอดทนดีมาก ยังไม่มีผู้บ่น หรือขอให้ปิดการประชุมเลย
กระทั่งเวลา 16.47 น. องค์ประชุมยังขาดอยู่ 12 คน ชวน ได้กล่าวขึ้นว่า ด้วยความเกรงใจสมาชิกฯ ตนจะอยู่รอจนถึง 17.00 น. เท่านั้น หากองค์ประชุมยังไม่ครบจริงๆ ก็จำต้องปิดการประชุมไป ขณะที่ คำพอง เทพาคำ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้ต่อเวลาบาดเจ็บต่อไปอีกหน่อย
เมื่อเวลา 17.00 น. ชวน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้มีองค์ประชุม 357 คน ขาดอยู่ 7 คนถึงจะครบองค์ประชุมที่จำนวน 364 คน โดยตนได้ใช้เวลารอมาทั้งหมด 53 นาที ในเมื่อถึงเวลา 17.00 น. แล้ว ตนต้องขอขอบพระคุณสมาชิกฯ ทุกคนที่กรุณาให้เวลาอดทนรอคอยอย่างจริงใจ ในวันนี้เมื่อองค์ประชุมไม่ครบ ต้องขอจบการประชุมแต่เพียงเท่านี้ จากนั้นจึงได้สั่งปิดประชุมในเวลา 17.02 น.ในทันที