สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่าการจัดทำงบ ประมาณประจำปี 2567 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณขาดดุลเช่นเดิม ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาจัดทำงบประมาณขาดดุลมาโดยตลอด และมีการกู้เงินโปะงบประมาณทุกปีจากการตรวจสอบพบว่าพลเอกประยุทธ์ ใช้การกู้เงินโปะงบประมาณมากกว่า 4 ล้านล้านบาท สร้างหนี้สินไม่รู้จบ
การกล่าวอ้างว่าไม่อยากให้เป็นภาระกับรัฐบาลหน้านั้น เป็นการพูดเอาดีเข้าตัว เพราะข้อเท็จจริงคือหนี้สินที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้ ใครมาเป็นรัฐบาลต่อไปต้องไปตามใช้หนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อขึ้น หนี้สินก้อนนี้ กระทบเงินลงทุนในการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน ทั้งนี้งบประมาณประจำปี 2567 ที่สูงถึง 3,350,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นจำนวน 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.18 งบประมาณที่เพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย
สมคิด กล่าวด้วยว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ อยากเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ คงไม่สามารถคำนวนได้ว่าประเทศไทยจะเป็นหนี้อีกมากเท่าไหร่ 8 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าประชาชนเห็นอะไรชัดเจนแล้วว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลผลออกมาเช่นไร ถึงเวลานี้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับว่าตัวเองไร้ความสามารถ ประชาชนมองว่าพล.อ.ประยุทธ์ แก่เกินกว่าจะมานั่งบริหารประเทศต่อไป ควรให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามานำพาประเทศ จะเกิดประโยชน์กับ ประชาชนมากกว่า
“นอกจากนี้การจัดทำงบประมาณหลายปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ อ้างว่าเน้นสร้างความมั่นคงทางการทหารจึงประเคนงบประมาณให้กับกองทัพ 8 ปี มากกว่า 1 ล้านล้านบาท ซื้ออาวุธให้กองทัพ ซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ และซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อีกมากมาย อ้างเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัว พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้หากงบประมาณเหล่านี้ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนจะสามารถช่วยประชาชนได้หลายล้านครัวเรือน ดังนั้นถึงเวลานี้ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอยาก ให้ประชาชนคิดให้ดีว่า 8 ปีที่ผ่านมาเข็ดกันหรือยังกับพลเอกประยุทธ์ รวมทั้งตั้งแต่ยึดอำนาจปี 2557 ประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน มีอะไรดีขึ้นมาบ้าง ดังนั้นขอให้ประชาชนคิดให้ดีก่อนตัดสินใจเลือก ใครมาบริหาประเทศต่อไป” สมคิด กล่าว