โรงแรม อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ ในโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2566 จัดโดย กลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ความคืบหน้าการขอยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ
นพ.ชลน่าน เผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือกัน มีมติว่า จากเดิมที่เห็นว่าการอภิปรายฯ เป็นเรื่องด่วนสำคัญต้องยื่นทันทีหลังเปิดสมัยประชุม แต่มีความจำเป็นต้องนำญัตติด่วนมาแทรกในวันที่ 3 พ.ย. ก่อน ว่าด้วยเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู และปัญหาน้ำท่วมหนัก จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปออกไปก่อน เป็นช่วงกลางเดือน พ.ย. และคาดว่าจะได้เปิดอภิปรายภายในไม่เกิน ธ.ค. สำหรับประเด็นที่จะอภิปรายครอบคลุมนโยบายเร่งด่วนทั้ง 12 ด้านของรัฐบาลทั้งหมด รวมทั้งประเด็นร้อนอย่างเรื่องยาเสพติดและบ่อน การปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ส่วนช่วงเวลาที่อาจจะคาบเกี่ยวกับการประชุมเอเปคนั้น มีความจำเป็นต้องยื่นในช่วงนี้ เพราะหากหลังจากการประชุมเอเปคเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองเช่น การยุบสภาในช่วงเดือน ธ.ค. โดยเฉพาะวันที่ 24 ธ.ค. ที่หลายคนประเมินว่าอาจเกิดเหตุบางอย่างขึ้น ก็อาจไม่มีโอกาสได้อภิปราย เชื่อมั่นว่าไม่กระทบต่อความสนใจของประชาชน
"เป็นการคาดการณ์ ไม่มีใครรู้ เพราะผู้มีอำนาจยุบสภาคือนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านก็ไม่ได้ประกาศ แต่เราประเมินจากสถานการณ์การเมืองโดยรวม ก็คาดว่าอาจมีการยุบสภาก่อนครบวาระ เรามั่นใจ 90%"
นพ.ชลน่าน มองว่า ความเป็นไปได้ที่จะยุบสภานั้น จะต้องเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเขา หากเขาดูแล้วสามารถเข้าสู่ระบบการเลือกตั้งและได้รับความไว้วางใจ สามารถสืบทอดอำนาจได้ รวมทั้งมีมาตรการที่ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น เช่นมาตรการของขวัญปีใหม่จากงบประมาณแผ่นดิน ภาษีอากรกับประชาชน การให้ การแจกต่างๆ เห็นได้จากการเร่งลงทะเบียนบัตรคนจน 23 ล้านคน ยิ่งแจกช่วงที่มีการยุบสภายิ่งดี เพราะออกมาตรการแจกเงินไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ผิดกฎหมายเนื่องจากเป็นงบประมาณแผ่นดิน