ไม่พบผลการค้นหา
แกนนำไทยรักษาชาติยังประชุมพรรคตามปกติ และกรรมการบริหารพรรคเตรียมกำหนดท่าทีดำเนินการทางการเมือง หลังเจอวิกฤตจากการเสนอแคนดิเดตนายกฯ

ที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ถนนแจ้งวัฒนะ มีสื่อมวลชนหลากหลายสำนักหลายๆ แขนง ยังคงปักหลักรอติดตามความเคลื่อนไหวของกรรมการบริหารและแกนนำพรรค ว่าจะมีท่าทีและกำหนดการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร หลังจากมีความชัดเจนแล้วว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.นั้น อาจขาดคุณสมบัติหรือไม่อาจเสนอได้แล้ว รวมถึงกระแสตีกลับจากกรณีดังกล่าว ซึ่งอาจนำสู่การฟ้องร้องจนกระทบกับการดำเนินงานของพรรคในอนาคตอันใกล้นี้ได้

โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา มีแกนนำสำคัญและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ทยอยเดินทางมาที่พรรค ทั้งนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช แกนนำพรรค, พล.ต.ต. สุรสิทธิ์ สังขพงศ์, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค, นายแพทย์เหวง โตจิราการ และนายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จากสัดส่วนแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ของพรรค แต่ยังไม่ปรากฎว่ามีกรรมการบริหาร รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงของพรรค เดินทางมาประชุมในวันนี้

ขณะที่มีประชาชนผู้สนับสนุนพรรคหลาย 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจแกนนำและผู้บริหารพรรคในวันนี้ด้วย รวมทั้งนายวรัญชัย โชคชนะ จากกลุ่มพลังประชาธิปไตย นักการเมืองผู้สร้างสีสันในวงการ ได้เดินทางมาให้กำลังใจพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมกับนำเอกสารที่ได้ยื่นต่อ กกต.เกี่ยวกับการคัดค้านการยุบพรรคไทยรักษาชาติ และให้ กกต.ตรวจสอบป้ายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐมาอธิบายต่อสื่อมวลชนด้วย

โดยนายแพทย์เหวง กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รอติดตามทำข่าวสั้นเพียงๆ ว่า "ไม่มีปัญหาอะไร วันนี้มีการประชุมตามปกติของพรรค" ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่พรรคกำลังเผชิญอยู่ แต่ยังไม่มีการแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงข่าวหรือชี้แจงประเด็นต่างๆ หรือไม่

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อยืนยันการลาออกจากกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ โดยได้แนบสำเนาหนังสือลาออกตัวจริงที่ได้ดำเนินการยื่นกับพรรคไทยรักษาชาติเมื่อเช้าวันที่ 4 ก.พ. ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรคที่มีการลงมติเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทำให้ในวันดังกล่าวไม่ได้มีส่วนร่วมในการลงมติ

นายรุ่งเรือง ยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ ไม่ใช่การชิงลาออกก่อนการลงมติเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการดำเนินตามความประสงค์ที่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว หลังได้หารือกับคนในครอบครัว ซึ่งมีความเป็นห่วงงานการเมืองที่ต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลบุตรที่ยังเล็ก การตัดสินใจลาออกครั้งนี้จึงเป็นการกระทำในจังหวะเวลาที่เหมาะสม