นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ประจำวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค. 2563 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 110 ราย จำแนกเป็นติดเชื้อในประเทศ 64 ราย ,ติดเชื้อในแรงงานข้ามชาติจากการคัดกรองเชิงรุก 30 ราย และจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้อีก 16 ราย จำนวนผู้ป่วยสะสมรวม 6,020 ราย ,รักษาหายแล้วรวม 4,152 ราย ,ยังคงรักษาอยู่ 1,808 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 60 รายเท่าเดิม ปัจจุบันประเทศไทยอยู่อับดับที่ 144 ของโลก
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันจำแนกตามพื้นที่การรักษา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 2,402 ราย ภาคเหนือ 202 ราย ภาคกลาง 2,524 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 130 ราย และภาคใต้ 762 ราย
นพ.ทวีศิลป์ ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19ว่า การตรวจแบบ Rapid Test คือหารเจาะเลือด เพื่อดูภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพราะฉะนั้นภูมิคุ้มกันคือภาพสะท้อน ซึ่งไม่ใช่การตรวจหาเชื้อโดยตรง โดยการหาเชื้อโดยตรงที่ทราบกันคือการตรวจแบบแหย่เข้าไปในจมูก ต้องใช้เวลาถึง 2-3 ชม. จะรู้ผล และประเด็นหลักคือใช้ค่าใช้จ่ายสูง แต่การตรวจเจาะเลือดค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาก
ในทำเนียบรัฐบาลมีบุคลากรกว่า 7 ร้อยคน เลยใช้การตรวจแบบ Rapid Test ในเบื้องต้น ซึ่งไม่ได้ผล 100% ซึ่งจากกระแสข่าวที่ออกไปพบ 6 คนติดเชื้อ ผลล่าสุดจากการตรวจโดยตรวจ ทุกคนไม่พบเชื้อ ยืนยันว่าในทำเนียบรัฐบาลยังไม่มีผู้ติดเชื้อ ส่วนกรณีหน้ากากผ้า นายแพทย์ทวีศิลป์ ก็ยืนยันเช่นกันว่า ใช้สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้
ธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ทำเนียบรัฐบาลมีมาตรการป้องกันรักษาความสะอาด และตรวจอย่างเข้มงวดเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาปฏิบัติงาน และปฎิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยได้ทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ และทำความสะอาดห้องประชุมต่างๆก่อนและหลังที่มีการประชุม เพื่อสร้างความมั่นใจ นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่ทุกคนตรวจสุขภาพ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เริ่มทะยอยตรวจแล้ว และจะมีการตรวจอีกครั้งในวันจันทร์นี้ (28 ธ.ค. 2563 )
ส่วนปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ไปติดตามดูแลไม่ให้จำหน่ายเกินราคาชิ้นละ 2.50 บาท ซึ่งเมื่อวานได้มีการประชุมของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกไปตรวจติดตามจับกุมร้านค้าจำหน่ายเกินกว่าราคาที่กำหนด ควบคู่กับการรณรงค์ให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้าควบคู่ไปด้วยได้
ธีระภัทร กล่าวอีกว่า ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสื่อสารประเมินสถานการณ์ ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินสถานการณ์และคาดการณ์สภาพอากาศ PM 2.5 ทราบว่าช่วงระหว่างวันที่ 24 ถึง 29 ธันวาคมสภาพอากาศจะปิด อาจเกิดปัญหาา จึงได้ประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดมาตรการต่างๆทั้งการตรวจควันดำกับรถที่ใช้น้ำมันดีเซล รวมถึงด้านการจราจรระบายและการให้ทำงานที่บ้านหรือ work from home ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้ส่วนราชการต่างๆหน่วยงานมหาชนและรัฐวิสาหกิจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แบ่งเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และยังจะป้องกันการแพร่ระบาดของ covid ด้วย โดยแบ่งสัดส่วนให้ทำงานอยู่ที่บ้าน 80% ของเจ้าหน้าที่ยกเว้นงานด้านการบริการของภาคประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :