ไม่พบผลการค้นหา
'ศุภชัย' แจงปมแผงลอยกัญชา ถ.ข้าวสาร เผยคาดไว้อยู่แล้ว กำชับตำรวจช่วยสอดส่อง ต่อลงพื้นที่เอง ย้ำหาก พ.ร.บ.ผ่านจะไม่เกิดอีก วอนทั้งประเทศช่วยกันแบกให้กัญชาไม่สะดุด

วันที่ 30 มิย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... กล่าวถึงกรณีเมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) ปรากฏข่าวว่าพบร้านจำหน่ายกัญชาสำเร็จรูปปลีก 1 ร้าน บริเวณ ถ.ข้าวสาร ในลักษณะแผงลอย

โดย ศุภชัย ระบุว่า ทางกรรมาธิการฯ คาดการณ์ไว้แล้วว่าสิ่งเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้น การจำหน่ายกัญชาสำเร็จรูปในบางลักษณะเป็นร้านค้า หรืออาคาร มีผู้คนเข้าไปจับจ่าย และอีกลักษณะคือพ่อค้าเร่มาตั้งโต๊ะแผงลอยอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ทั้งหมดทั้งปวงในที่สุดเมื่อกฎหมายประกาศใช้ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะจะต้องมีการขออนุญาตทั้งสิ้น ช่วงนี้ต้องยอมรับว่าเป็นสุญญากาศ แต่ยังเป็นสุญญากาศที่เราควบคุมได้ในระดับที่น่าจะโอเค

ศุภชัย ยังเผยว่า เมื่อ 2 วันที่แล้ว ตนได้ประสานไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝากให้ไปช่วยสอดส่องดูในพื้นที่ ว่าที่ ถ.ข้าวสาร มีการจำหน่ายกัญชาแบบที่ว่าจริงหรือไม่ เน้นย้ำว่าต้องตรวจสอบให้ไม่มีการจำหน่ายแก่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี โดยทางตำรวจยืนยันว่ายังไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ส่วนตนคิดว่า น่าจะต้องลงพื้นที่เองด้วยเหมือนกันเพื่อไปดูข้อเท็จจริง และถ้าปรากฏว่ามีพฤติการณ์จำหน่ายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่าอายุ 20 ปี ก็จะต้องเข้าสู่การดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งอาจมีโทษจำคุก

"ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่ง (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งแล้วว่า ให้ตำรวจได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องเหล่านี้ และอีกไม่นานบรรยากาศเหล่านี้ก็จะคลี่คลายไป สังคมต้องช่วยกัน ลำพังแค่กฎหมายอย่างเดียวก็ไม่ได้ เราอาจจะต้องช่วยกันแบก ไม่อยากให้กัญชาซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ต้องมาสะดุด จนเราไม่สามารถนำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาใช้ในทางการแพทย์เหมือนกับต่างประเทศได้ ด้วยผลของการที่มีผู้ทำมาหากินเช่นนี้ ขอโอกาสฝากผู้ที่ทำการค้าขายเรื่องนี้อยู่ ให้ลดลงหน่อย ไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม ไม่ต้องโจ่งแจ้งมากเกินไป และที่สำคัญคืออยากจำหน่ายเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี" ศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ ศุภชัย ระบุว่า ความคืบหน้าของกรรมาธิการฯ ในการพิจารณาร่างกฏหมาย จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้น ก.ค.นี้ ดังนั้น ระหว่างช่วง ส.ค. จะเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาให้พิจารณาต่อไป