วันที่ 29 ก.ย. 2565 วรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลงนามในประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดยระบุว่า ด้วยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงถ้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. 2565 เวลา 15.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรค 2 ประกอบมาตรา 158 วรรค 4 หรือไม่ กรณีดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ประกอบกับหน่วยงานทางความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีสถานการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่ปลอดภัย และความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น
เพื่อให้กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 38 วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ประธานศาลรัฐธรรมนูญโดยความเห็นชอบของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงออกประกาศไว้ ดังนี้
กำหนดให้อาณาบริเวณของศูนย์ราชการฯ ตามแนวเขตแผนที่เป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย
กำหนดให้พื้นที่ทำการของศาลรัฐธรรมนูญเป็นพื้นที่ควบคุมตามข้อ 14 แห่งระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ. 2562
ในประกาศ ยังระบุอีกว่า ห้ามให้ผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับการอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
โดยให้ประกาศนี้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2565 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึงวันที่ 3 ต.ค. 2565 เวลา 16.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนหลายกลุ่มเพื่อรอฟังการวิินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาทิ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร และคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งทั้งสองกลุ่มได้จัดชุมนุมที่สกายวอล์ค สี่แยกปทุุมวันและ ราชประสงค์ ตามลำดับ