วันที่ 14 ก.พ. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม ยืนยัน ว่าการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงสามารถทำงานด้วยกันได้กันต่อไป ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น และวันนี้ได้พูดคุยกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขแล้ว ถึงเรื่องปัญหาสุขภาพและเรื่องโควิด-19 ไม่มีเรื่องการเมืองอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมาในการประชุม ศบค. มีรายงานข่าวของสื่อมวลชน นายกรัฐมนตรี พูดในห้องประชุม ว่า"หนูช่วยหน่อยนะ" ซึ่งเรื่องนี้ตนจำไม่ได้ว่าพูดไปตอนไหน แต่ก็พูดกับทุกคนในห้องประชุมที่นั่งอยู่วันนั้น กับพรรคร่วมรัฐบาล ว่าช่วยกันหน่อยนะ การทำงานภายในรัฐบาล เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปให้ได้ ซึ่งตนพูดแบบนี้ ก็ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลก็คือพรรคร่วมรัฐบาล ตนก็ขอบคุณทุกพรรค และจะยังทำงานด้วยกันต่อไป 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้เป็นวันนี้ 14 ก.พ. วันวาเลนไทน์ ว่าเป็นของสากล ตนจึงอยากถือโอกาสนี้ ให้ทุกคนนั้นมีความรักความสามัคคี แต่อย่าลืม รักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัตริย์ รวมไปถึง รักคนไทยด้วยกัน รักชาติบ้านเมือง สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ในการที่จะสร้างพลังรัก และความสามัคคีของพวกเรา เพื่อให้ประเทศฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ 

นายกฯ ทำท่าไอเลิฟยู ส่งต่อความรักวันวาเลนไทน์

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้สภาพอากาศภายในทำเนียบรัฐบาลมืดครึ้ม ฝนกำลังจะตก นายกรัฐมนตรี จึงขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และดูแลตัวเอง พร้อมบอกทิ้งท้ายว่า "ฝนตกแล้ว เดี๋ยวฟ้าก็เปิด" ก่อนขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า โดยระหว่างนนายกฯ เดินขึ้นตึก มือก็ยัง ชูนิ้วออกมาทำท่าไอเลิฟยู ให้กับสื่อมวลชนด้วย 

'อนุทิน' พร้อมช่วยนายกฯ ทำงาน มาด้วยกันไปด้วยกัน

อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงรายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ตนช่วย โดยมีคำพูดที่ว่า “หนูช่วยหน่อยนะ” ว่า นายกฯ ได้สอบถามว่า “พี่พูดกับหนูเมื่อไหร่” ตนตอบไปว่าจำไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วหากนายกฯ บอกว่าให้ช่วยหน่อยนะ ก็ช่วยกันทำงานอยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่ และเป็นรัฐมนตรีด้วยกัน แต่การพูดของนายกฯ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่ตน แต่พูดในลักษณะให้ช่วยกันทำงาน ทำให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย

ส่วนการอ้างเสียง ส.ส.ในมือ 260 เสียงนั้น อนุทิน บอกว่า ไม่รู้มาจากไหน แต่จะพยายามทำให้มีเสถียรภาพมากที่สุด 

ภท.หนุนช่วยนายกฯ ในศึกอภิปรายทั่วไป

อนุทิน ยังยืนยันว่าในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ ทางพรรคภูมิใจไทย จะช่วยดูแลนายกฯ เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ก็ต้องสนับสนุนนายกฯ เต็มประตู และนายกฯ ยังไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ผิดไปจากนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ทุกอย่างเป็นไปตามทำนองคลองธรรม ทำเพื่อประโยชน์ประเทศประชาชน 

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)หากมีการเห็นชอบต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนนายกฯ ต่อหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ให้มันเกิดขึ้นก่อน มีเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการนำเข้า ครม. เพื่อพิจารณา แต่สำหรับวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) ยังไม่เห็นวาระ ขอไปดูก่อน

ส่วนผลการพิจารณา ครม. จะเป็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยยังพร้อมสนับสนุนรัฐบาลต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าเรื่องจะเข้า ครม. ในรูปแบบใด เราจะพูดในสิ่งที่มันยังไม่เกิดไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมต้องให้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรายละเอียดมาชี้แจง ไม่เกี่ยวกับท่าทีในสภา เพราะคนที่อนุมัติคือ ครม. ซึ่งต้องรอดู เพราะอาจยังไม่มีข้อสรุปก็ได้ เพราะทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่างก็มีเหตุผล และไม่ใช่ความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเพียงความเห็นที่ไม่ตรงกันของ 2 กระทรวง ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างพรรค ก กับ พรรค ข เป็นเรื่องการทำงาน ไม่เกี่ยวการเมือง 

เลี่ยงตอบถอนตัว รบ. ถ้า รถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่เป็นไปตาม ภท.

อนุทิน ยังเลี่ยงที่จะตอบว่า หากไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์พรรคภูมิใจไทย จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยยึดผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมืองเป็นหลัก พร้อมย้ำเมื่อมีความเห็นต่างกันของ 2 กระทรวง ก็ต้องหาจุดลงตัวตนได้ ถ้าไม่ได้นายกฯ ในฐานะประธาน ก็ต้องให้มติ ผลเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม เรื่องนี้ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทยขัดเเย้งกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นโควตานายกฯ จึงเป็นเรื่องการทำงาน ที่ไม่ใช่พรรคการเมือง อย่าไปผูกรวมกัน เราช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนเเละประเทศ มีความเห็นต่างได้ ซึ่งต้องหาจุดลงตัวจนได้ พร้อมย้ำว่ามาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน ช่วยกันทำงาน ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

ในช่วงท้าย อนุทิน ได้อวยพรสื่อว่า ให้มีความสุขในวันวาเลนไทน์