ไม่พบผลการค้นหา
"พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ชี้ แก้ยุทธศาสตร์ชาติและอำนาจ ส.ว.ในรัฐธรรมนูญได้ หากสังคมตื่นตัวเพียงพอ พร้อมมองรัฐบาลประยุทธ์ 2 เสียงปริ่มน้ำ จะดึงงูเห่ามาช่วยได้แน่ ยังไม่เชื่อจะมีรัฐประหารในระยะเวลาอันไกล้

รองศาสตราจารย์พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า และประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. ให้สัมภาษณ์ 'ทีมข่าววอยซ์ทีวี' เกี่ยวกับสถานการณ์และอนาคตการเมืองไทย ระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคพลังประชารัฐ ที่จะได้รัฐบาลประยุทธ์ 2 เป็นไปได้ ไม่ว่าจะใช้ ส.ว. ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี หรือใช้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคร่วม แม้จะมีเสียงปริ่มน้ำในสภาฯ ซึ่งจะเผชิญปัญหาการลงมติ หรือผ่านกฎหมายต่างๆที่ต้องระดม ส.ส.ฝากรัฐบาลทั้งหมดมาให้ครบ รวมทั้งดึง ส.ส.จากบางพรรคในฝ่ายประชาธิปไตย หรือ งูเห่า อีก 20 -​30 เสียงมาช่วยในบางวาระหรือบางมติด้วย 

โดยเฉพาะ ส.ส. ที่มีฐานเสียงของตัวเอง ซึ่งพรรคต้นสังกัดอาจขับงูเห่าออกจากพรรค กระแสสังคมอาจโจมตี เรื่องจุดยืนและอุดมการณ์ และพรรคอาจไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งรอบถัดไป แต่ ส.ส.งูเห่าก็ย้ายพรรคได้เช่นกัน เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.

ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐต้องรับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลและมุ้งต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐเอง เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งการขอเลื่อนการเลือกประธานสภาฯ ที่ผ่านมา ประธาน ครป.มองว่า ก็เป็นการแสดงอิทธิฤทธิ์เล็กๆ ของกลุ่มการเมืองย่อยในพรรคพลังประชารัฐที่ไม่พอใจผลการต่อรองบางอย่างในพรรคนั่นเอง 

รองศาสตราจารย์พิชาย ระบุด้วยว่ารัฐบาลพรรคพลังประชารัฐอาจอยู่ได้เพียง 1 ปี หากมีปัญหาก็ยุบสภา ซึ่ง ส.ส.บางส่วนและ ส.ว.อาจไม่เห็นด้วย กับทางเลือกที่ 2 คือ นายกรัฐมนตรีต้องลาออก แล้วนำสู่นายกฯ คนนอก หรือพรรคการเมืองตกลงกันเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก 4 พรรคที่เหลือ แล้วตั้งคณะกรรมการพิจารณานโยบายสาธารณะร่วมของแต่ละพรรค รวมถึงกรรมการร่วมภาคประชาชน เพื่อให้ระบบรัฐสภาเดินต่อไปได้ และแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนและประคับประคองเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม แม้มีการรัฐประหารเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้มีอำนาจ เพราะสังคมไทยยังไม่มีกลไกป้องกัน แต่มองว่า ความชอบธรรมและเงื่อนไขไม่เพียงพอ ทางเลือกที่ดีกว่าอาจเป็นการใช้นายกฯ คนนอก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :