ความเห็นของมาลีอาร์มีขึ้น หลังจากรัสเซียใช้ขีปนาวุธ และโดรนโจมตีเมืองต่างๆ ทั่วยูเครน ทั้งนี้ รัสเซียได้ยกระดับการทิ้งระเบิดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะยอมรับว่ากองกำลังของเขากำลังประสบปัญหาขาดแคลนขีปนาวุธและโดรน ทั้งนี้ การโจมตีระลอกล่าสุดยังรวมถึงการโจมตีที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยในเมืองท่าโอเดสซาบริเวณทะเลดำ
ปัจจุบันนี้ ยูเครนพยายามยกระดับการโจมตีตอบโต้ เพื่อทวงคืนดินแดนที่ถูกยึดไปโดยรัสเซีย ในขณะที่รัสเซียพยายามโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรน เพื่อเป็นการดึงความสนใจออกจากการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ทั้งนี้ ทางการยูเครนกล่าวว่ากองทหารของพวกเขายึดคืนพื้นที่ไปได้แล้ว 7 แห่ง นับเป็นพื้นที่อย่างน้อย 90 ตารางกิโลเมตร นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการตอบโต้เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา
มาลีอาร์ระบุว่ากองทหารยูเครนได้รุกคืบไปทั่วเมืองบักห์มุต ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการสู้รบบนท้องถนนที่ดุเดือดและนองเลือดกับกองกำลังรัสเซีย โดยกองกำลังยูเครนรุกคืบไปทางเมืองได้แล้ว 200 ถึง 500 เมตร เช่นเดียวกับการรุกคืบ 300 ถึง 500 เมตรในพื้นที่ซาปอริซเซียทางตอนใต้ แต่มาลีอาร์ยอมรับว่าการตอบโต้ได้นำไปสู่ "การสู้รบที่ดุเดือดอย่างยิ่ง" ในขณะที่กองกำลังยูเครน พยายามที่จะฝ่าแนวป้องกันของรัสเซียที่จัดตั้งขึ้นไว้อย่างดี
เจ้าหน้าที่อาวุโสของชาติตะวันตกเตือนว่า อย่าคิดว่ากองกำลังรัสเซียจะ “ละลายหายไป” เมื่อเผชิญกับการโจมตีของยูเครน โดยผลลัพธ์ที่ยูเครนจะได้มามีราคาที่ “แพง” อยู่แล้ว “โดยทั่วไปแล้ว กองกำลังรัสเซียมีการป้องกันที่ดีจากตำแหน่งที่มีการเตรียมพร้อมและป้องกันอย่างดี และถอยร่นไปมาระหว่างแนวยุทธวิธี” แหล่งข่าวกล่าว "’แนวทางป้องกันแบบหลบหลีก’ นี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความท้าทายสำหรับยูเครน และมีราคาที่ต้องจ่ายสูงสำหรับกองกำลังโจมตี ดังนั้น การรุกคืบในขณะนี้จึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า" และยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการโจมตีของยูเครนมีประสิทธิภาพเพียงใด
เจ้าหน้าที่อาวุโสของชาติตะวันตกย้ำว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นมากเกินกว่าจะประมาณ เนื่องจากรัสเซียมีเวลาหลายเดือนในการเตรียมแนวป้องกัน "สิ่งนี้จะไม่มีวันปราศจากความเสี่ยง" พวกเขากล่าว "สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง มันยากและเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับยูเครน สิ่งที่เราได้เห็นคือพวกเขายังคงผลักดันผ่านจุดที่พวกเขาเคยเสียเปรียบ จากนั้นก็รุกคืบต่อไป โดยรวมแล้วเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
การโจมตีเมื่อคืนวันพุธ (14 มิ.ย.) ในเมืองท่าโอเดสซาทางทะเลดำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 13 รายในการโจมตีช่วงเช้าตรู่ ซึ่งมีเป้าหมายยังโกดังและร้านค้าที่ได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้ รัสเซียยังโจมตียยูเครนในช่วงข้ามคืน ด้วยขีปนาวุธ 10 ครั้ง และโดรนอีก 10 ครั้ง ซึ่งถูกยิงสะกัดโดยระบบป้องกันทางอากาศจากยูเครน
ในอีกพื้นที่หนึ่งของยูเครน รัสเซียยังโจมตีเมืองทางตะวันออกของครามาตอรสก์ และโคสเตียนนีนีฟกา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอีก 3 ราย และทำลายบ้านเรือนที่อยู่อาศัยหลายสิบหลัง ยังมีประชาชนอีก 6 ราย ซึ่งรวมถึงคนงานป่าไม้ 4 รายถูกสังหาร หลังจากรัสเซียยิงรถตู้คันหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนเมื่อวันอังคาร (13 มิ.ย.) ใกล้กับหมู่บ้านเซเรดีนา-บูดาใกล้กับชายแดนรัสเซีย
ที่มา: