ไม่พบผลการค้นหา
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คนจากการโจมตีระลอกใหม่ทั่วยูเครน จากการที่รัสเซียใช้อาวุธทรงพลัง รวมถึงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก หรือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่หายาก ทั้งนี้ มีรายงานว่ารัสเซียไม่ได้ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคินซาล ซึ่งสามารถหลบเลี่ยงการป้องกันทางอากาศได้ มาตั้งแต่ช่วงเดือนต้นๆ ที่ผ่านมา

การถล่มยิงขีปนาวุธล่าสุด นับเป็นระลอกการโจมตีที่รุนแรงที่สุดในยูเครนในรอบหลายสัปดาห์ ส่งผลให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ต้องตัดพลังงานแม้ว่าจะได้รับการบูรณะในภายหลัง

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9 มี.ค.) อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า “อาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำสูงทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก รวมถึงระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคินซาล โจมตีองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครน”

เมื่อวานนี้นับเป็นวันที่รัสเซียโจมตียูเครนครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยกองทัพยูเครนอ้างว่าตัวเองประสบความสำเร็จในการยิงสะกัดขีปนาวุธร่อน 34 ลูก และโดรนชาเฮ็ดที่ผลิตโดยอิหร่าน 4 ลำ แต่ยูเครนระบุว่าพวกเขาไม่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธคินซาลทั้ง 6 หัวรบได้ และไม่สามารถทำลายอาวุธรุ่นเก่า เช่น ขีปนาวุธต่อต้านเรือ Kh-22 และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300

“นี่เป็นการโจมตีครั้งใหญ่และเป็นครั้งแรก ที่มีขีปนาวุธประเภทต่างๆ มากมาย” สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างคำแถลงของโฆษกกองทัพอากาศยูเครน "มันไม่เคยเป็นมาก่อน" โดยก่อนหน้านี้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้เน้นย้ำถึงการลงทุนของรัสเซียในด้านขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งสามารถเดินทางด้วยความเร็วมากกว่าเสียงถึง 5 เท่า

บริษัทอีเนอร์เกาตอม ผู้ประกอบการด้านพลังงานนิวเคลียร์กล่าวว่า การยิงโจมตีโรงไฟฟ้าซาปอริซเซีย ได้ตัดความเชื่อมโยงระหว่างโรงงานกับระบบไฟฟ้าของยูเครน นับเป็นครั้งที่ 6 ตั้งแต่พื้นที่ดังกล่าวถูกยึดครองโดยรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว โดยโรงงานแห่งนี้ใช้เครื่องปั่นไฟดีเซลจนกระทั่งการเชื่อมต่อ ได้รับการบูรณะในวันพฤหัสบดี เนื่องจากไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้สารกัมมันตภาพรังสีในโรงงานมีความเย็นลง

ในกรุงเคียฟ หน่วยฉุกเฉินได้เข้ากู้ภัยในที่เกิดเหตุระเบิด บริเวณเขตทางตะวันตกและทางใต้ ทั้งนี้ ขีปนาวุธของรัสเซียยังถูกยิงโจมตีใส่โรงงานพลังงานในเมืองท่าโอเดสซา ส่งผลให้ไฟฟ้าของเมืองดับ โดย มักซิม มาร์เชนโก ผู้ว่าการโอเดสซากล่าวว่า บริเวณที่พักอาศัยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากพื้นที่ทางตอนใต้

ในพื้นที่อื่นๆ กองทัพของยูเครนกล่าวว่า พวกเขาได้ผลักดันการโจมตีที่รุนแรงของรัสเซียในเมืองบักห์มุต ทางตะวันออกที่มีการสู้รบ แม้ว่ากองกำลังรัสเซียจะอ้างว่า พวกเขาได้ควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกแล้วก็ตาม ทั้งนี้ รัสเซียพยายามยึดบักห์มุตมาหลายเดือนแล้ว ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างประสบความสูญเสียอย่างหนักในสงครามที่ล้างผลาญ

“ศัตรูยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ในการบุกโจมตีเมืองบักห์มุต” เจ้าหน้าที่ทั่วไปของกองกำลังยูเครนกล่าว "ผู้พิทักษ์ของเราขับไล่การโจมตีบักห์มุต และชุมชนโดยรอบ" ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของชาติตะวันตกกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียระหว่าง 20,000 ถึง 30,000 นายเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในการสู้รบ เพื่อแย่งชิงเมืองบักห์มุตของยูเครน นับตั้งแต่ช่วงต้นของฤดูร้อนปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี รายงานตัวเลขดังกล่าวไม่สามารถได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระได้


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-64903202?fbclid=IwAR0MLeH17XpvsnmS7Gx2vtxribWT80sAlKj8ONMljF_om2Ywf_qgrMdjZus