ไม่พบผลการค้นหา
เครือข่ายภาคประชาชน แต่งดำ-นั่งวีลแชร์ บุกทำเนียบ ค้านข้อเสนอ ก.การท่องเที่ยวฯ เปิดผับบาร์ถึงตีสี่ ชี้สร้างภาระให้ระบบสาธารณสุข จี้ “อนุทิน” สั่งเบรกก่อนผ่านครม. ต้องปรามลูกพรรค อัด “พิพัฒน์” ควรลงไปสัมผัสเหยื่อเมาแล้วขับด้วยตนเอง

วันที่ 11 พ.ย.2565 เวลา 10.00 น. ที่หน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต ร่วมกับ เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพมหานคร เครือข่ายรณรงค์ป้องกันแอลกอฮอล์ เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุราและภาคีเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการขยายการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ที่เสนอโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยขอให้คณะรัฐมนตรีไม่ให้ความเห็นชอบกับข้อเสนอดังกล่าว

LINE_ALBUM_221111_12.jpg


โดยเริ่มต้นจากการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อาทิ แต่งชุดดำ นั่งรถวีลแชร์ พร้อมถือป้ายข้อความ ระบุว่า “ปิดผับตี 4 เพิ่มภาระแพทย์ รมต.สธ.ว่าไง” “จุดขายประเทศไทยไม่ใช่น้ำเมา ผับบาร์” ฟังเสียงคนในพื้นที่ด้วยไม่ใช่เอาใจแต่ทุนเหล้า ผับบาร์” “ปิดผับตี 4 นโยบายภูมิใจไทย จริงหรือ” 

จากนั้น มีการแสดงละครสั้นสะท้อนปัญหา ในชื่อชุด “ยังเจ็บตายไม่พอกันอีกหรือ” โดยผู้เรียกร้อง 1 คน แต่งตัวเป็นศพนักเรียนที่เป็นเหยื่อเมาแล้วขับ พร้อมวางพวงหรีดไว้อาลัย

LINE_ALBUM_221111_3.jpg

ด้าน เจษฎา แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเมาแล้วขับกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรณีที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมที่จะเสนอนโยบายขยายเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. จากเดิม 02.00 น. ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะมีพื้นที่นำร่องขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง บริเวณจังหวัด ภูเก็ต กระบี่ พังงา รวมไปถึงพื้นที่สมุยเมืองพัทยา และ 3 พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร คือถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย และซอยพัฒน์พงศ์

เจษฎา ตั้งคำถามว่า การให้เหตุผลเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นจริงหรือไม่ เพราะชาวต่างชาติที่มาเที่ยว ไม่ได้มาเพื่อเข้าผับบาร์ แต่มาเพื่อเที่ยวสถานที่อื่นๆมากกว่า แต่คนเที่ยวผับบาร์คือคนหนุ่มสาว คนทำงาน นอกจากนี้การที่ผับปิดช่วงเวลา 04.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเกือบสว่าง หลายคนเริ่มออกมาทำงาน เด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียน ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับอุบัติเหตุทางท้องถนนจากคนเมาแล้วขับ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล

LINE_ALBUM_221111_4.jpgLINE_ALBUM_221111_8.jpg

“ท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองครับ อยากให้ท่านมองตรงนี้ว่าทุกอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนในสังคมไทย ซึ่งเป็นสังคมนักดื่มมันยังเยอะไม่พออีกเหรอครับเล็กน้อยซึ่งเวลาเพิ่มอีก 2 ชั่วโมง มันอาจจะดูเป็นเวลาแค่เล็กน้อย แต่เชื่อไหมครับว่า 2ชั่วโมงภายใน 1 ปี มันจะต้องมีคนบาดเจ็บมีคนล้มตาย มีคนพิการเพิ่มอีกเท่าไหร่ มันคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ท่านบอกว่าจะเป็นรายได้เข้าประเทศหรือไม่ ซึ่งเราจะไม่ค่อยไม่เห็นชาวต่างชาติเมาแล้วขับ ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย ท่านคิดสักนิดนึง ผลเสียหรือผลดีอะไรจะมากกว่ากัน”

ด้าน เครือมาศ ศรีจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต กล่าวแสดงจุดยืนและเสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่

1.ขอประนามและคัดค้านนโยบายขยายเปิดผับบาร์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเรียกร้องคณะรัฐมนตรีไม่ให้ความเห็นชอบกับข้อเสนอนี้ เพราะปัจจุบันผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้านเหล้าผับบาร์มีมากเกินกว่าที่สังคมจะรับไหว เช่น การทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ความรุนแรงในครอบครัว การดื่มแล้วขับก่อให้เกิดปัญหาอุบัติเหตุและอาชญากรรม รวมไปถึงสุขภาพและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งประเทศไทยไม่ควรใช้การกินดื่มหรืออบายมุขมาเป็นจุดขาย และที่ผ่านมาไม่เคยมีข้อมูลว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาประเทศไทยด้วยจุดประสงค์ดังกล่าว

2.ขอเรียกร้องไปยัง อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ควรมีจุดยืน ไม่เพิ่มภาระทางการแพทย์และการสาธารณสุข ควรสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวในฐานะที่เป็นลูกพรรคภูมิใจไทย ยุติการผลักดันนโยบายนี้ ซึ่งสร้างความสับสนว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายของภูมิใจไทยหรือกำลังทำตามการล็อบบี้ของกลุ่มธุรกิจและทุนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้ามชาติ โดยไม่ สนใจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยหรือไม่

3.ขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและคณะที่ผลักดันเรื่องนี้ ลงไปสัมผัสเหยื่อจากคนเมาแล้วขับ ที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้พิการ ผู้ที่ครอบครัวแตกแยก ผู้หญิงที่ถูกทำร้าย รวมไปถึงเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เพื่อกระตุ้นสำนึกในความเป็นมนุษย์มากกว่าความหวังกระตุ้นการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวสายเมาเพียงอย่างเดียว

สำหรับการยื่นหนังสือครั้งนี้ มี สมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยในวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.สามเสน และ สน.ดุสิต จำนวน 1 กองร้อย เป็นผู้ดูแล