ไม่พบผลการค้นหา
'อินเดีย' ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 28 รายการ ตอบโต้ 'สหรัฐฯ' ขณะนักเศรษฐศาสตร์ห่วงผลกระทบตีกลับเศรษฐกิจอินเดีย เนื่องจากอินเดียส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มากกว่านำเข้า

หลังจากสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในกรณีพิพาททางการค้ากับทั้งจีนและสหภาพยุโรป อินเดียก็ส่อเค้าเป็นประเทศคู่พิพาทรายใหม่ หลังทั้ง 2 ประเทศต่างพากันขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

ล่าสุด รัฐบาลอินเดียตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 28 รายการ เช่น อัลมอนด์ แอปเปิ้ล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลออกมากล่าวว่า นี่เป็นมาตรการตอบโต้ หลังจากที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ยังตัดสินใจตัดอินเดียออกจากโปรแกรมการค้าพิเศษ ที่ยกเว้นการคิดภาษีกับสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการตอบโต้ครั้งนี้ของอินเดียอาจเป็นผลเสียกับประเทศมากกว่าเป็นผลดี 'พรียานกา คีชอ' หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อินเดีย ของออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลอินเดียครั้งนี้เป็นการคำนวนที่ผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลเสียด้านการเจรจาทางการค้ามากกว่าผลดี

นักเศรษฐศาสตร์เตือนอินเดีย อาจเป็นเป้าโจมตีที่ใหญ่ขึ้น

สถานะทางการค้าของอินเดียกับสหรัฐฯ มีความคล้ายกับจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากอินเดียมีมูลค่าการส่งออกมากกว่าการนำเข้า โดยเมื่อปี 2561 อินเดียนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท แต่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ สูงถึง 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.69 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าการค้าบริการรวมในปีที่แล้วสูงถึง 5.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.71 ล้านล้านบาท 

ดังนั้น ตัวเลขดังกล่าวอาจเอื้อให้รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจโจมตีอินเดีย เพิ่มขึ้นจากมาตรการฯที่ตัดอินเดียออกจากการยกเว้นภาษี มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท โดยพรียานกาเตือนว่า หากสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้ามาแทรกแซงภาษีกับสินค้าอย่างจิวเวอร์รี่ และไอที จะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนัก

เศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าความเป็นจริง

แม้อินเดียจะมีไพ่เพื่อเล่นอยู่ในมือบ้าง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมไอที ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก ทั้ง แอมะซอน วอลมาร์ต กูเกิล และเฟซบุ๊ก แต่อินเดียไม่ได้มีกำลังต่อรองทางการค้าอย่างจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 ของโลก และมีอำนาจในการขู่ขึ้นภาษีสินค้ามูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 34 ล้านล้านบาท 

ยิ่งในเวลาที่เศรษฐกิจอินเดียกำลังถูกบั่นทอน เนื่องจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดีย (จีดีพี) ในไตรมาสที่ผ่านมาตกลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.8 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี อีกยังมีรายงานวิจัยชี้ว่าจีดีพีอินเดียตั้งแต่ปี 2555 - 2560 (ตามสูตรการคำนวณที่เพิ่งปรับใหม่) ที่รัฐบาลอ้างว่าอยู่ที่ร้อยละ 7 แต่แท้จริงแล้วอยู่ที่เพียงร้อยละ 4.5 

อ้างอิง; CNN, Asia Times, WP, BI, BBC