เลือกตั้ง
'ประยุทธ์' ลั่นฟิตมาก แต่ยังกั๊กปราศรัย พปชร. ขอถามกุนซือกฎหมายก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในการขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยพรรคพลังประชารัฐ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหารือ ส่วนการทำเลเซอร์รักษาดวงตา ตอนนี้ยังไม่หายดี ซึ่งหมอให้ระมัดระวังสักระยะหนึ่ง ให้ถนอมสายตา ทำให้วันนี้ต้องใส่แว่นป้องกันแสงยืนยันเรื่องสายตาไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจลงพื้นที่ เพราะตากับใจเป็นคนละเรื่อง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ตนยังแข็งแรง และหากทราบผลตรวจสุขของตน จะตกใจ เพราะแข็งแรงทุกประการ รวมถึงใจก็แข็ง ไม่มีท้อแท้ เพราะทำงานให้กับประชาชน และทำเพื่ออนาคตของประเทศ ซึ่งการจะช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียง มีการปรึกษาฝ่ายกฏหมาย เพราะหลายฝ่ายจ้องตาเป็นมัน ที่จะรอฟ้องร้องขอให้เห็นใจตนอย่าเอาเป็นเอาตายกับตนเลย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ว่าการลงพื้นที่หาเสียง ก็ต้องระมัดระวังและต้องปรับรูปแบบวิธีการลงพื้นที่ว่าทำอะไรได้บ้าง ซึ่งทุกวันนี้การไปพบประชาชนก็ทำอยู่แล้ว และทำได้ตามกฏหมาย แต่การจะไปขึ้นเวทีคงจะลำบาก
ส่วนผลสำรวจความนิยมประชาชน ที่จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เลือกพรรคพลังประชารัฐนั้น ว่าต้องดูวิธีการทำโพลถ้าเขียนแยกก็จะได้คำตอบเช่นนั้น ต้องไปดูว่าประชาชนต้องการความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ต้องดูที่อดีตปัจจุบันและอนาคตว่าเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยัน สภาพร่างกายแข็งแรง 100% ไม่ต้องกลัวจะถูกโจมตี เพราะมั่นในความดี ที่ทำมาตลอด
'ลดาวัลลิ์' ท้า 'พล.อ.ประยุทธ์ ' ขึ้นปราศรัย
ด้าน นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นต่อสู้ทางการเมืองที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
“สิ่งที่น่าเป็นกังวลต่อกรณีดังกล่าวนั่นก็คือเรื่องของการใช้ทรัพยากรของรัฐในการหาเสียง ตามที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวกอยู่หลายใบ ทั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ”
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศตัวเป็นนักการเมือง และเริ่มต้นนับหนึ่งทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว สิ่งที่ต้องเรียนรู้ต่อไปก็คือการเป็นนักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นอย่างไร สิ่งไหนที่เคยคิด เคยทำมาแล้วขัดแย้งกับประชาธิปไตยต้องทิ้งให้หมด มิเช่นนั้นแล้วเส้นทางการเมืองที่คาดหวังไว้อาจจะสั้นกว่าที่วาดฝันไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
