ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทนักกีฬา ทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทย

วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะเจ้าหน้าที่และผู้แทนนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เข้ารับโอวาทจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล 

S__25739421.jpg

นายกฯเศรษฐา ได้เผยผ่านโซเชียลมีเดียหลังให้โอวาทว่า 'ผมขอแสดงความยินดีกับสมาคมโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โค้ช และนักกีฬาทุกคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเทฝึกซ้อมจนผ่านการคัดเลือกไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสใน 12 ชนิดกีฬา โดยสมาคมฯ รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนสำคัญในการเป็นพลังผลักดันด้วย ผมถือว่านี่คือก้าวแห่งชัยชนะของทุกคนครับ

ผมมั่นใจอยู่แล้วว่า ทุกคนจะเต็มที่ในทุกแมตช์ ดังนั้น ผมและพี่น้องประชาชนชาวไทยจะส่งแรงใจ แรงเชียร์ให้เสมอ วันนี้รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณด้านการกีฬาของประเทศ รวมถึงมีนโยบายดูแลนักกีฬาให้มีความมั่นคงทางอาชีพ ซึ่งไม่ใช่แค่นักกีฬาที่ไปโอลิมปิกนะครับ แต่หมายถึงนักกีฬาทุกคน

โอลิมปิก คือ การแข่งขันกีฬาที่สำคัญที่สุดของโลก และจะเป็นช่วงเวลาของ สันติภาพ ความปรองดอง และความสามัคคี เราจะสนับสนุนความคิดของประธานาธิบดีมาครง ของประเทศฝรั่งเศส ที่จะพักรบ (Truce) ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วยครับ'

S__25739412.jpgS__25739428.jpgS__25739415.jpg

สำหรับการแข่งขัน Olympics Paris 2024 ครั้งที่ 33 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ประเทศไทยมีจำนวนนักกีฬามากที่สุดในอาเซียน โดยมีนักกีฬาไทยที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 51 คน ใน 17 ชนิดกีฬา ดังนี้ 1. เทควันโด จำนวน 3 คน 2. จักรยาน จำนวน 4 คน 3. ยิงปืน จำนวน 3 คน 4. ขี่ม้า จำนวน 1 คน 5. แบดมินตัน จำนวน 9 คน 6. ยกน้ำหนัก จำนวน 4 คน 7. ปัญจกีฬาสมัยใหม่ จำนวน 1 คน 8. เรือพาย จำนวน 1 คน 9. มวยสากลสมัครเล่น จำนวน 8 คน 10. กอล์ฟ จำนวน 4 คน 11. เรือใบ จำนวน 2 คน 12. ไคท์บอร์ด จำนวน 2 คน 13. เทเบิลเทนนิส จำนวน 3 คน 14. เอ็กซ์ตรีม จำนวน 1 คน 15. ว่ายน้ำ จำนวน 2 คน 16. ยูโด จำนวน 1 คน และ 17. กรีฑา จำนวน 2 คน 

สำหรับรางวัลที่นักกีฬาจะได้รับจากภาครัฐจำแนกได้ 2 แบบ คือ

1) จ่ายทีเดียว แบ่งเป็น เหรียญทองได้รับ 10 ล้านบาท เหรียญเงินได้รับ 6 ล้านบาท และเหรียญทองแดงได้รับ 4 ล้านบาท

2) แบ่งจ่าย (เงินก้อน 50% ที่เหลืออีก 50 % แบ่งจ่ายรายเดือน 4 ปี) ดังนี้ เหรียญทองได้รับ 12 ล้านบาท เหรียญเงินได้รับ 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดงได้รับ 4.8 ล้านบาท