วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย วิศณุ ทรัพย์สมพล และ ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช โดยมี ไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ให้รายละเอียดโครงการ คณะผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้รับจ้างโครงการฯ ร่วมลงพื้นที่
สำหรับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน รายละเอียดโครงการ มี 2 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 อุโมงค์ทางเดินลอดบริเวณจุดตัดถนนหน้าพระธาตุกับถนนหน้าพระลานระยะทาง 96 เมตร มีพื้นที่รวม 6,285 ตารางเมตร ความลึก 6.6 เมตร ประกอบด้วย โถงพักคอย ห้องน้ำชาย 21 ห้อง ห้องน้ำหญิง 51 ห้อง ทางขึ้น-ลง 4 จุด (บันได ค.ส.ล. 1 จุด และระบบบันไดเลื่อน 3 จุด) งานลิฟต์โดยสาร 2 เครื่อง และชั้นลอยเป็นห้องเครื่องสำหรับงานระบบควบคุม มีพื้นที่ 358 ตารางเมตร
และจุดที่ 2 อุโมงค์ทางเดินลอดบริเวณหน้าที่ทำการไปรษณีย์ไทย สาขาหน้าพระลาน ระยะทาง 37 เมตร ประกอบด้วย ทางเดินลอดใต้ดิน ทางขึ้น-ลง 3 จุด (บันได ค.ส.ล. 1 จุด และระบบบันไดเลื่อน 2 จุด) งานลิฟต์โดยสาร 2 เครื่อง มีพื้นที่รวม 390 ตารางเมตร งานระบบสุขาภิบาล ระบบไฟแสงสว่าง ระบบระบายอากาศและปรับอากาศ ระบบจราจร และปรับปรุงภูมิทัศน์คืนสภาพพื้นที่
ปัจจุบันความก้าวหน้าโครงการ มีผลงานที่ได้สะสม 74% อยู่ระหว่างดำเนินการปูกระเบื้องพื้น งานติดตั้งท่อระบบไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาลและระบบดับเพลิง งานติดตั้งท่อจ่ายลมเย็นระบบปรับอากาศและงานติดตั้งบันไดเลื่อน มีแผนเร่งรัดงานแล้วเสร็จเดือน กรกฎาคม 2565 ส่วนงานเพิ่มเติมลิฟต์โดยสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ตุลาคม 2565
ส่วนโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช เป็นโครงการก่อสร้างทางเดินลอดชั้นใต้ดินระยะทาง 90 เมตร ความลึก 4.7 เมตร ประกอบด้วย โถงทางเดิน ห้องน้ำชาย 15 ห้อง ห้องน้ำหญิง 20 ห้อง ทางขึ้น-ลง 2 จุด (ระบบบันไดเลื่อน) งานลิฟต์โดยสาร 2 เครื่อง มีพื้นที่รวม 1,043 ตารางเมตร งานระบบสุขาภิบาล ระบบไฟแสงสว่าง งานระบบระบายอากาศและปรับอากาศ ระบบจราจร และงานปรับปรุงภูมิทัศน์คืนสภาพพื้นที่
ปัจจุบันความก้าวหน้าโครงการ ผลงานที่ได้สะสม 99% ซึ่งได้เปิดใช้อุโมงค์มหาราชเป็นสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ส่วนงานเพิ่มเติมคือลิฟต์โดยสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 2565 เช่นเดียวกัน