วันที่ 13 พ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่แถลงการณ์ ระบุ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ออกแบบให้การเลือกตั้งเป็นของประชาชนซึ่งพิจารณาได้จากทุกกระบวนการจัดการเลือกตั้งได้กำหนดให้ “ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสมัครรับเลือกตั้ง การกำหนดสถานที่หรือหน่วยเลือกตั้ง โดยผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (กกต.เขต) และผู้อำนวยการ การเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ที่มีจำนวน 400 เขตเลือกตั้ง รวมไปถึงเจ้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งหรือคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในวันเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 94,775 หน่วยเลือกตั้ง จึงเห็นได้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นเพียงผู้ออกระเบียบ ประกาศ และคำสั่งต่างๆ เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย สำหรับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งก็เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก สนับสนุน ให้บุคคลดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องเท่านั้น
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปกฎหมายได้ออกแบบ ให้มี กปน. หน่วยละ 9 คน ต่อจำนวน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 800 คน และจะเพิ่มหน่วยละ 1 คน ต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น 100 คน และหากหน่วยเลือกตั้งใดมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,400 คน ขึ้นไป จะมี กปน. ได้ 2 ชุด คือ 18 คน ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงมีประชาชนที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็น กปน. เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในวันเลือกตั้ง มากกว่า 1,000,000 คน
“กปน.” คือประชาชนที่มี “คุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” เป็นผู้มีจิตอาสาเข้ามาทำงานในวันเลือกตั้ง ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ตลอดกว่า 18 ชั่วโมง โดยไม่ได้หยุดพัก ตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 ถึง 22.00 น. เพื่อรับมอบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ดำเนินการจัดสถานที่เลือกตั้ง ตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบและภายในที่เลือกตั้ง ตรวจสอบและนำคำสั่ง ประกาศต่างๆ ไปปิดป้ายประชาสัมพันธ์หน้าที่เลือกตั้ง รวมไปถึงการบริการและอำนวยความสะดวกในระหว่างการลงคะแนนเลือกตั้ง และเมื่อปิดการลงคะแนนแล้ว กปน. ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ในการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงการรายงานผลคะแนน นำส่งคืนหีบบัตรและวัสดุอุปกรณ์กลับมายัง กกต.เขต จึงถือว่าเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่
“กปน.” จึงถือเป็นหัวใจของการเลือกตั้ง เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นที่ยอมรับการปฏิบัติหน้าที่ของ กปน. อย่างถูกต้องจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะ กปน. จะเป็นผู้ดูแลรักษาเจตนารมณ์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ได้ออกเสียงลงคะแนนไว้ ยังผลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมายและเป็นการธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
คณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญต่อประเทศชาติและมีเกียรตินี้ ทั้งในวันลงคะแนนเสียงล่วงหน้าที่ผ่านมาด้วยความเข็มแข็ง มุ่งมั่น เสียสละ ทุ่มเท อดทน ท่ามกลางการสังเกตการณ์จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชนในการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอส่งกำลังใจไปให้ “กปน.” ทุกท่าน ในการปฏิบัติหน้าที่ในวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุน ความร่วมมือจากทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีดังเช่นที่ผ่านมา ที่จะยังผลให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ให้การเลือกตั้งเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน อย่างแท้จริง