คุณภาพชีวิต
'โลก' ต้องจริงจังกับการลด 'ก๊าซคาร์บอนฯ' มากกว่านี้!
นวัตกรรมมีส่วนช่วยในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทั้งการสร้างเข็มทิศเพื่อการเดินทางทางทะเลในอดีต ไปจนถึงการสร้างหลอดไฟเพื่อเอาชนะความมืดมิดของธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมในปัจจุบันกลับยังไม่สามารถแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของโลกได้มากเท่าไหร่นัก
แม้ผู้นำหลายประเทศทั่วโลกจะลงนามเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีที่ผ่านมากลับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขัดแย้งกับเป้าหมายในการควบคุมสภาพอากาศโลกอย่างสิ้นเชิง
อย่าแค่ 'ร่วมลงนาม' ต้อง 'ร่วมลงมือทำ'
การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือต่างๆ ไม่สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้จริงหากปราศจากการลงมือทำ การร่วมมือกันในทุกภาคส่วนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่างหากที่จะช่วยโลกได้ และด้วยเงื่อนไขในปัจจุบัน ทุกประเทศต้องทำโดยทันที
บริษัทผลิตพลังงานจำเป็นต้องย้ายไปยังพลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม และ พลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่ภาคธุรกิจและผู้บริโภคต้องเลือกที่จะใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฟฟ้าควรกลายเป็นมาตรฐานใหม่ และนโยบายระยะสั้นของรัฐบาลต้องสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเหล่านี้
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมพลังงานให้มากขึ้น เพราะตามข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) พบว่าเม็ดเงินที่ลงไปในภาคส่วนนี้ในหลายประเทศคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.1 ของงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น การวิจัยเหล่านี้จะไปช่วยหาทางออกให้กับปัญหาข้อจำกัดของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์
ขณะเดียวกัน ภาคส่วนที่สัญญาว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จำเป็นต้องทำให้ได้ตามสัญญา เพราะข้อมูลจากไออีเอ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีเพียง 7 จากทั้งหมด 45 ภาคส่วนและอุตสาหกรรมสำคัญที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้
ให้ 'ศาล' รักษา 'คำสัญญา'
ตามคำเตือนจากคณะกรรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (ซีซีซี) สหราชอาณาจักรจะพลาดเป้าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะเริ่มต้นในปี 2566 และหมายความว่ารัฐบาลอาจโดนดำเนินคดีด้วยเช่นกันจากการขาดความสามารถในการบรรลุเป้าหมาย
"ช่องว่างระหว่างจุดที่เราต้องไปให้ถึงและจุดที่เรายืนอยู่ มันกว้างขึ้น" คริส สตาร์ค ผู้บริหารสูงสุดของซีซีซี กล่าว
ในรายงานล่าสุดของซีซีซีที่นำเสนอต่อคณะรัฐบาลอังกฤษ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่ายังไม่มีนโยบายใดของภาครัฐที่มีศักยภาพในการควบคุมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ได้ พร้อมเตือนว่าการดำเนินนโยบายภายในช่วงเวลา 12 - 18 เดือนข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและเปราะบางที่สุดเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
