ไม่พบผลการค้นหา
รายงานจากทางการอินโดนีเซียเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ บริเวณเมืองเชียนจูร์ พื้นที่ในชวาตะวันตก เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 40 ราย ล่าสุดในวันนี้ (22 พ.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียเปิดเผยว่า มีการพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแล้วถึง 252 ราย

เหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ซึ่งลึกลงไปจากพื้นดิน 10 กิโเลมตร บนเกาะชวาของอินโดนีเซีย เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ส่งผลให้เกิดดินถล่มและอาคารบ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการยังไม่มีความชัดเจน แต่มีโพสต์ของทางการอินโดนีเซียบนอินสตาแกรมเปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวไปแล้วกว่า 252 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีก 31 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 377 ราย และผู้พลัดถิ่นกว่าอีก 7,060 ราย

ริดวัน คามิล ผู้ว่าการชวาตะวันตกเปิดเผยว่า ตัวเลขการเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก หลายคนเป็นเด็กที่ไปเรียนพิเศษในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ ทางการอินโดนีเซียกำลังเร่งเข้ากู้ภัยอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจะยังคงพุ่งสูงขึ้นกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

จากรายงานของทางการอินโดนีเซีย อ้างอิงข้อมูลขององค์กร Save Children เปิดเผยว่า มีสถานศึกษาจำนวน 51 แห่งที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงโรงเรียนประถม 30 แห่ง โรงเรียนมัธยมต้น 12 แห่ง โรงเรียนมัธยม 1 แห่ง โรงเรียนอาชีวษึกษา 5 แห่ง และโรงเรียนพิเศษอีก 1 แห่ง 

ในโรงพยาบาลของเกาะชวาเต็มไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ซึ่งสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ที่ตั้งห่างออกไปจากเมืองเชียนจูร์กว่า 100 กิโลเมตร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ยังมีประชาชนอีกหลายสิบรายที่ยังคงติดอยู่ภายใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมา

เหตุแผ่นดินไหวเกิดเป็นเรื่องปกติในอินโดนีเซีย ซึ่งมีแหล่งภูมิศาสตร์ตั้งอยู่บน “วงแหวนแห่งไฟ” พื้นที่ที่แผ่นเปลือกโลกบริเวณแปซิฟิกยังคงเคลื่อนตัว และภูเขาไฟยังพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ร้ายแรง โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คนในแผ่นดินไหวที่พื้นที่เกาะสุลาเวสีเมื่อปี 2561


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/nov/22/indonesian-earthquake-rescuers-search-for-survivors-trapped-in-rubble?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR0Wy15rVUidj-H9B1XaGcjO4pJR5zAR0jy6Wn2JEiIC_pGVCgObuBouNz8