ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์-นายกฯ สปป.ลาว' ​ร่วมวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 อ้อน​ชาวบึงกาฬ​ ​อย่าเพิ่งเบื่อกัน​-เอาความรัก​​มาฝาก ย้ำตั้งใจทำให้บ้านเมืองไร้นัยยะ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางไปร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ที่ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ประเทศไทย และจะข้ามไปยังแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า​ ขอบคุณชาวบึงกาฬ​ วันนี้ดีใจมีโอกาสมาถึงจังหวัดบึงกาฬ ระยะทาง 700 กว่ากิโลเมตร​ ตนมาจากกรุงเทพฯ​ เห็นแล้วว่าบ้านเมืองเราสงบเรียบร้อยดีจังเลย หลายอย่างที่รัฐบาลทราบแล้วว่ามีหลายเรื่องที่มีปัญหาอยู่ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ที่นี่โชคดีที่ธรรมชาติยังโอเค​ ขอประชาชนช่วยกันรักษาป่าไม้ไว้ด้วย ส่วนระบบน้ำ​ น้ำเรามีเยอะ​ ก็ต้องบริหารจัดการน้ำให้ได้ ระบบชลประทานนายกฯจะไปดูให้ วันนี้ประชาชนมาจำนวนมาก วันนี้เลยพูดไม่ออก​ เพราะตื่นเต้นไปหน่อย​ คนเยอะเหลือเกิน 

นายกฯ​ ระบุอีกว่า​ ตนรู้สึกยินดีด้วยบึงกาฬ​ จะมีช่องทางมีสะพานใหม่ขึ้นมา คาดว่าอีกคงไม่นาน นี่คือสะพานแห่งที่ 5 และกำลังพิจารณาออกแบบเรื่องสะพานแห่งที่ 6 ซึ่งออกแบบศึกษาไว้แล้ว ก็จะทำต่อไปอีกเส้นหนึ่ง เส้นทางสาละวัน 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังหยอดคำหวานกับชาวบึงกาฬ​ โดยระบุว่า เอาหัวใจชาวกรุงเทพฯ​ ความคิดถึง​ ความรัก มาถึงพวกเราด้วย จากทุกจังหวัด วันนี้ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเวลาอยู่เหมือนกัน เวลาเป็นไปตามกำหนด เมื่อเช้าออกจากกรุงเทพฯบินมาตั้งแต่เช้า ตนคิดถึงทุกคน นี่แหละคนไทย​ เราไม่ทิ้งกัน​ ไม่เคยทิ้งกัน ดีใจที่ได้มาเจอกันในวันนี้ถึงแม้ว่าจะมีเวลาน้อย เดี๋ยวจะต้องไปเข้าตามฤกษ์ก่อน​ ไปทำพิธี ขอบคุณทุกคนข้าราชการทุกคนด้วย เอาความรักความคิดถึงความห่วงใยมาฝากจากรัฐบาล 

ซึ่งขณะนั้นมีป้าคนนึงเดินเข้ามาสวมกอดนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะทุบหน้าอกและส่ง I love you ให้ทุกคนพร้อมกับกล่าวว่าเอาหัวใจมาฝาก เดี๋ยวตนต้องไปขึ้นเรือก่อน นายกฯก็มีเชื้อสายอีสานเหมือนกันแหละ ตนเกิดที่โคราช ก็เว้าลาวได้นิดหน่อย ขอโทษทีเถอะ เพราะว่าเวลาติดกัน ขอให้ทุกคนปลอดภัยเดินทางกลับก็ต้องปลอดภัย เดี๋ยวจบพิธีตนจะกลับมาอีกรอบ​ ขออย่าเพิ่งเบื่อก็แล้วกัน ตนตั้งใจทำให้พวกเรา​ ให้บ้านเมืองให้ประชาชน ไม่มีอะไรอย่างอื่น ก่อนที่จะเดินทางไปวางศิลาฤกษ์กลางน้ำ ระหว่างพรมแดนไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ขณะที่ พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ ดังกล่าว ระบุว่า​ ตนมีความยินดีที่ได้รับเกียรติ เป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรีของไทย และมีคณะรัฐมนตรีเข้าร่วม ในพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย​- ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการวางศิลาฤกษ์​ล่าช้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ในส่วนของการก่อสร้างได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นที่น่าพึงพอ ซึ่งเกินความคาดหมาย 

ซึ่งโครงการนี้เป็นหนึ่งในความพยายาม ในการพัฒนาของ 2 รัฐบาล รายการตั้งเงื่อนไขอำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมา ของประชาชนทั้งสองฝั่ง รวมไปถึงภาคการขนส่งระหว่างประเทศ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว โดยใช้ที่ตั้งยุทธศาสตร์อันสำคัญของทั้งสองประเทศ เกี่ยวกับอนุภาคพื้นลุ่มแม่น้ำโขง และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เป็นการอำนวย ความสะดวกสนับสนุนการเชื่อมโยงการขนส่ง ทั้งฝั่งไทยลาวและอนุภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ให้เกิดผลประโยชน์สูง

ซึ่งโครงการนี้ได้มีการวางแผนการปฏิบัติงาน ว่าด้วยการเป็นผู้ร่วมยุทธศาสตร์ การเจริญเติบโตและการพัฒนาในระยะ 5 ปี 2022-2026 ซึ่งได้มีการลงนามข้อตกลง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อเจตนารมณ์ ของประชาชนทั้งสองชาติ ในการเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน และสายผูกพันมิตรภาพการร่วมมือ ที่มีมาอย่างยาวนาน

พร้อมกันนี้โครงการสะพานมิตรภาพไทย​-ลาวแห่งที่ 5 จะเป็นการตอบสนอง ให้แก่กันปฏิบัติเป้าหมายที่ 5 ในการร่วมมือเชื่อมโยง ภายในภาคพื้นสากลให้มีความทันสมัย เข้มแข็ง ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติตั้งแต่ปี 2021 -​ 2025 และยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 10 ปี 2016 -​2025 โดยการนำเอาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีชายแดนติดต่อกัน เป็นการเชื่อมโยงศูนย์กลางการเชื่อมโยง

โดย พันคำ ยังระบุอีกว่า​ ตนและประชาชนชาวลาวขอขอบคุณรัฐบาลไทยด้วยความจริงใจ ที่ได้มีการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้าง โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมของไทย และส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง​ แขวงบอลิคำไซ จนทำให้โครงการดังกล่าวนั้นสำเร็จ ตนหวังว่า ทุกคนจะปฏิบัติให้สำเร็จตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถเปิดใช้ ในต้นปี 2024 

ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีภาษาที่สามารถพูดคุยกันรู้เรื่องและเข้าใจกัน และมีหลายอะไรหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน มีความเกี่ยวดองกัน เรากินข้าวร่วมนากินปลาร่วมน้ำ และพึ่งพาอาศัยกัน มาตั้งแต่โบราณกาล ตนขอย้ำว่า สายความผูกพันและความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ไม่สามารถตัดขาดกันได้

จากนั้นนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันวางศิลาฤกษ์​ ฝั่งประชาธิปไตยประชาชนลาว​ และกดปุ่มเปิดสะพานมิตรภาพไทย​- ลาว บึงกาฬ-บอลิคำไซ อย่างเป็นทางการ จากนั้น คำพัน ได้ลั่นฆ้อง 9 ครั้งเอาฤกษ์เอาชัย​ หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการ และถ่ายรูปร่วมกัน โดยมีคณะรัฐมนตรีของ ทั้ง 2 ประเทศร่วมเฟลม และชมวิวริมฝั่งแม่น้ำโขง ก่อนที่นายกทั้ง 2 ประเทศจะข้ามกลับมายังฝั่งไทยเพื่อวางศิลาฤกษ์ในฝั่งไทย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนมารอให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีจำนวนแน่นขนัดพื้นที่ และนายกรัฐมนตรี ใช้รถเอาภาษีดำหมายเลขทะเบียน​ วฌ 1599 กรุงเทพมหานคร