ไม่พบผลการค้นหา
"สุดารัตน์" พร้อมคณะรับฟังปัญหา ชาวสวนลำไย จ.เชียงราย ระบุ ภัยแล้งเล่นงานผลผลิต จี้รัฐเร่งชดเชย ด้านชาวสวนเตรียมฝากลำไยที่เสียหายให้นายกฯ รับประทานเพื่อพิจารณามาตรการเยียวยา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสินค้าเกษตร ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย คุณหญิงสุดารัตน์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ นายวิศิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ นางละออง ติยะไพรัช นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพานส.ส.จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไย เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อน

นายเฉลียว นัยนา ประธานกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่จังหวัดเชียงราย สะท้อนว่าพื้นที่ปลูกลำไยในอำเภอแม่สรวยกว่า 3.8 หมื่นไร่ ประสบปัญหาภัยแล้งนานต่อเนื่อง และเมื่อผลลำไยเริ่มเป็นลูกเต็มที่กลับมีฝนลงไม่ถูกช่วงเวลา ทำให้ได้ผลผลิตลำไยน้อยกว่าที่คาดการณ์ หรือประมาณ 2 แสนตัน จาก 3 แสนตัน ในอำเภอแม่สรวย และได้ผลผลิตเพียงร้อยละ 40 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยในส่วนดังกล่าวที่มีลำไยออกผล กลับเป็นลำไยที่ไม่มีคุณภาพมากกว่าร้อยละ20ถึงร้อยละ50 ประชาชนยังสะท้อนด้วยว่าที่ดินทำกิน ยังมีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ ซึ่งไม่สามารถไปขอใช้สิทธิต่างๆหรือรับการเยียวยาได้เมื่อเกิดปัญหา 

นอกจากนี้ เกษตรกรยังต้องการเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์และพัฒนาอ่างเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพสามารถกักเก็บน้ำได้ รวมถึง การเจาะบาดาลธรรมชาติ เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนลำไยที่ปลูกลำไยอยู่บนพื้นที่สูง ชาวสวนลำไยบอก ด้วยว่า ต้องการให้รัฐจัดสร้างโกดังสำหรับเก็บลำไย พัฒนาตลาดกลางลำไยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ จะได้ไม่ต้องส่งลำไย ไปพักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ก่อนจะบรรจุส่งขาย หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ 

ชาวสวนลำไย ฝากสอบถามด้วยว่าการนำแรงงานเข้าสู่กระบวนการ ผลิตต้องแบกรับค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาทต่อคน จะมีมาตรการผ่อนปรนเพื่อลดภาระในเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่ ที่สำคัญราคาผลผลิตในระดับคุณภาพปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 27 บาท ไม่คุ้มค่ากับต้นทุนการผลิต ที่ควรมีราคาประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม ชาวสวนลำไยจึงจะสามารถอยู่ได้ ซึ่งหากไม่เร่งแก้ไข ทั้งเรื่องปัญหาราคา และการชดเชยอย่างเป็นธรรม วันนี้ "ลำไยไม่ตาย แต่คนตายคือเกษตรกร"

หลังรับฟังปัญหาจากเกษตรกร คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำและชลประทาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการผลิต ได้พูดคุยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ จะพยายามขับเคลื่อน เพื่อของบประมาณอย่างเต็มที่ โดยผลักดันให้ผู้มีอำนาจ บรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ใน งบประมาณรายจ่าย พร้อมแนะนำให้เกษตรกรในพื้นที่สำรวจความเสียหาย ซึ่งจะเป็นการบ้านนำไปพูดคุยกับผู้มีอำนาจ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการแก้ไข หรือชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการพิจารณา ระเบียบการชดเชยของ กระทรวงการคลัง ให้ได้รับการแก้ไขเพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องเกษตรกร ส่วนปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ ขอให้เกษตรกรส่งข้อมูลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยนำไปศึกษาร่วมกันหาทางออกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยย้ำว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งในจังหวัดเชียงรายได้ติดตามมาแล้ว ถึงสามครั้ง พร้อมสื่อสารไปถึงรัฐบาล ขอให้เร่งรัดการชดเชยในพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างเร่งด่วน ซึ่งหวังว่าภายในเดือนสิงหาคม นี้จะเร่งชดเชยให้แล้วเสร็จ และวงเงินชดเชยควรได้เพิ่มขึ้น ชาวนาควรได้ไร่ละ 2,000 บาท ชาวไร่ไม่ควรต่ำกว่า 2,000 บาทเช่นกัน และชาวสวนไม่ควรต่ำกว่าไร่ละ 2,500 บาท โดยในสัปดาห์หน้าชาวสวนลำไยจะฝากผลผลิตที่เสียหายไปให้นายกรัฐมนตรีรับประทานว่าลำไย ที่ผลแตก ผลรีบ เรียกว่าเสียหายหรือไม่